กินผักให้ได้ 400 กรัม ทำยากจริงหรือ?

เรื่องโดย : กิดานัล กังแฮ Team Content www.thaihealth.or.th


ผ่านไปอย่างอบอุ่นสำหรับงาน 15 ปี สสส. “การเดินทางของความสุข” งานที่เปิดพื้นที่รวบรวมผลงานผ่านการเดินทางระหว่าง สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั่วประเทศกว่า 15,000 องค์กร โดยหนึ่งในกิจกรรมในงานคือ การจัดแสดงนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาวะ" จากภาคีเครือข่ายบริเวณ รวมกว่า 31 นวัตกรรม


กินผักให้ได้ 400 กรัม ทำยากจริงหรือ? thaihealth


โครงการกินผักผลไม้ดี 400 กรัม หนึ่งในโครงการที่ สสส. ผลักดันเพื่อส่งเสริมให้คนไทยกินผักผลไม้ได้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกที่มีการวิจัยแล้วพบว่าช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน เป็นต้น


จันทร์จิดา งามอุไรรัตน์ ผู้จัดการโครงการกินผักผลไม้ดี 400 กรัม เล่าว่า จุดเริ่มต้นของโครงการเกิดจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า คนไทย 75% กินผักผลไม้น้อยกว่าวัน 400 กรัม มีเพียง 17% ที่บริโภคตามมาตรฐาน โดยประเทศไทยมีผักที่บริโภคได้ถึง 330 ชนิด รวมทั้งผักพื้นบ้านด้วย แต่คนไทยบริโภคผักอยู่เพียงแค่ 70-80% ของชนิดผักทั้งหมดเท่านั้น โดยประเด็นการบริโภคผักผลไม้ สสส.และภาคีเครือข่ายได้รณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจังตั้งแต่การศึกษาข้อมูล วิชาการ ส่งเสริมเรื่องของการปลูก ตลอดจนการจำหน่ายเพื่อเพื่อให้คนไทยเข้าถึงผักและผลไม้ปลอดสารพิษได้ง่าย สร้างเส้นทางของการบริโภคเพื่อสุขภาพของคนไทย


ทำอย่างไรถึงจะกินผักให้ได้ 400 กรัม


จันทร์จิดา บอกว่า ไม่ใช่เรื่องยากเลยกับการกินผัก ผลไม้ ให้ได้ในปริมาณที่เรียกว่า “เหมาะสม” สามารถคิดตามการใช้หลักธงโภชนาการง่ายๆ คือ แบ่งเป็น 5 ส่วน ผัก 3 ส่วน ผลไม้ 2 ส่วน หรือคิดเป็นทัพพี เราควรบริโภคไม่ต่ำกว่าวันละ 5 ทัพพีโดยรวม 400 กรัมขึ้นไปทุกวัน และที่สำคัญ ควรกินให้หลากหลาย คือ หลากหลายชนิด หลากหลายสีสัน หลากหลายรสชาติ ควบคู่กับการกินอาหารประเภทอื่นให้ครบ 5 หมู่

สำหรับคนเมืองที่อาจจะไม่มีเวลาในการเลือกรับประทานแนะนำให้ลองนำผักและผลไม้มาปั่น โดยวันนี้เรามีสูตรมาแนะนำด้วยค่ะ

ส่วนประกอบของ น้ำผักสดปั่น


1.ผักคะน้า ครึ่งแก้ว และผักกวางตุ้งปริมาณ ครึ่งแก้ว (แก้ว 16 ออนซ์) โดยชนิดของผักสามารถเลือกเพิ่มเติมได้ตามที่เราหาได้ เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน ผักบุ้ง มะละกอ มะเขือเทศ เป็นต้น ตามด้วยแครอท 2-4 แว่น


2. น้ำมะนาวปริมาณ 15 มิลลิลิตร


3. น้ำเสาวรส 35-45 มิลลิลิตร


4. เพิ่มความหวานแบบธรรมชาติด้วยกล้วยสุกประมาณครึ่งลูก


5. น้ำเปล่า 45-90 มิลลิลิตร


6. น้ำแข็ง 1 แก้ว (แก้ว 16 ออนซ์) 


สิ่งสำคัญที่สุดก่อนจะลงมือทำน้ำผักสดปั่นคือ การทำความสะอาดผักทุกชนิด ต้องล้างน้ำให้สะอาดทุกครั้งเพื่อชำระสารตกค้างที่อยู่ในผักและเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราด้วย


นอกจากการบริโภคผักผลไม้ในปริมาณที่เพียงพอแล้ว การเลือกบริโภคผักผลไม้ที่สะอาดปลอดภัยก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความใส่ใจ เพื่อการมีสุขภาพที่แข็งแรง ห่างไกลโรคในระยะยาว


สสส. ได้ร่วมมือกับ กลุ่มปลูก ปรุง เปลี่ยน องค์กรผู้ประกอบการสังคมบริษัทสวนเงินมีมา และเครือข่ายตลาดสีเขียว ผลักดันให้มีพื้นที่จำหน่ายผักผลไม้ปลอดภัย ที่ได้มาจากการปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์มีกระบวนการตามวิถีธรรมชาติในราคาที่เป็นมิตร ผ่านการระบบการรับรองอย่างมีส่วนร่วม Participatory Organic Guarantee System (PGS) เป็นการรับประกันคุณภาพผลผลิตอินทรีย์ที่ชุมชนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งการผลิต การจัดจำหน่าย โดยชุมชนเรียนรู้และพัฒนาระบบประกันความเป็นอินทรีย์ด้วยกระบวนการทางสังคมของแต่ละชุมชน ซึ่งไม่มีสูตรตายตัว และเกษตรกรกรออกแบบฟอร์มน้อยที่สุด กระบวนการรับประกันโดยชุมชนมีส่วนร่วมนี้ จะตั้งอยู่บนความโปร่งใส ความซื่อสัตย์ ที่เกิดจากกลไกควบคุมทางสังคมของชุมชน และจะเป็นกระบวนการพัฒนาที่มีความต่อเนื่อง


ปัจจุบันได้จัดตั้งให้มี 7 พื้นที่ออร์แกนิกสเตชั่นเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าอาหารปลอดภัยได้แก่ ผักผลไม้ตามฤดูกาล เกลือจากธรรมชาติ น้ำตาลจากมะพร้าว ไข่ไก่อารมณ์ดี รวมถึงผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นทั่วประเทศไทย เช่น กะปิ น้ำผึ้ง เป็นต้น รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/yarmyen2016


7 สถานีออร์แกนิก


1.ตลาดถนอมมิตร (รามอินทรา)


2. ร้านส่วนเงินมีมา ถ.เฟื่องนคร


3. สโมสรผึ้งน้อย ซอยพหลโยธิน 60


4. ร้านค้าโรงเรียนรุ่งอรุณ พระราม2


5. อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ซอยงามดูพลี สาทร


6.DC ซอยลาดพร้าว 30


7.ร้านยามเย็น ถ.อุทยาน


จันทร์จิดา ยังฝากทิ้งท้ายว่า นอกจากการเลือกบริโภคแล้ว สิ่งที่อยากให้คนไทยให้ความสำคัญอีกอย่างคือ การปลูกผักกินเอง ที่ดูเหมือนอาจจะเป็นเรื่องยากแต่แท้จริงแล้วเราสามารถทำได้ ที่สำคัญเป็นการทำให้เราสามารถผลิตอาหารที่ปลอดภัยได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้สามารถติดตามกิจกรรม และข้อมูลต่างๆของ โครงการโครงการกินผักผลไม้ดี 400 กรัม ได้ที่ http://www.vegandfruit400.org


สำหรับนิทรรศการ 15 ปี สสส. “การเดินทางของความสุข” จะมีการจัดแสดงตลอดปี 2560 และมีการหมุนเวียนไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นภาพการทำงาน และความสำเร็จบนเส้นทางการสร้างเสริมสุขภาพ


 


 

Shares:
QR Code :
QR Code