การปฐมพยาบาล คนเป็นลม
ที่มา : มูลนิธิหมอชาวบ้าน
แฟ้มภาพ
อาการหน้ามืดเป็นลม เป็นอาการที่พบบ่อยมากอีกอาการหนึ่ง คนไข้ที่มาบอกว่า เป็นลมหน้ามืดหรือหน้ามืดเป็นลม แต่ละคนจะให้ความหมายของอาการนี้ไม่เหมือนกัน เช่น
บางคนจะบอกว่า อาการเป็นลมหน้ามืดของตนนั้นมีอาการแน่นท้อง อึดอัด ลมตีขึ้น ต้องเรอเอิ้ก ๆ แล้วอาการก็ดีขึ้น บางคนจะบอกว่า อาการเป็นลมหน้ามืดของตนนั้นมีลักษณะคล้ายหัวเบา ตัวเบา แขนขาอ่อนแรง ต้องยืนพิงหรือนั่งพิงอะไรสักหน่อย แล้วก็ดีขึ้น บางคนจะบอกว่า อาการเป็นลมหน้ามืดของตนนั้น มีอาการใจสั่น ใจหวิว วิงเวียน มึนงง หรืออ่อนเพลีย อาจเป็นอยู่สักครู่เดียว หรือเป็นวัน ๆ ก็มี
การรักษา : เมื่อพบคนไข้ที่เป็นลม
- ควรรีบให้คนไข้นอนราบ หัวต่ำ (ไม่หนุนหมอน) และใช้หมอน หรือสิ่งอื่นยกขาให้สูงขึ้น
- สังเกตการณ์หายใจและคลำชีพจรที่คอ หรือที่ขาหนีบ ถ้าคนไข้หายใจได้และเราคลำชีพจรของเขาได้ จึงอาจถือว่าคนไข้เป็นลม (ถ้าคลำชีพจรที่คอและที่ขาหนีบไม่ได้ ต้องถือว่าหัวใจหยุด และรีบฟื้นชีวิตทันที ถ้าคนไข้หายใจลำบากต้องช่วยหายใจก่อน
- คลายเสื้อผ้า (เครื่องนุ่มห่ม) ที่คับ ให้หลวมออก
- กันไม่ให้คนมามุงล้อมผู้ป่วย
- ใช้พัดหรือสิ่งอื่นโบกลมให้ผู้ป่วย
- อาจให้คนไข้สูดดมยา เช่น ยาหม่อง พิมเสน แอมโมเนียหอม หัวหอม หรืออื่น ๆ
- อาจใช้ผ้าชุบน้ำเย็น(ในที่ที่อากาศร้อน)เช็ดหน้า คอ แขนขา และลำตัวของคนไข้ โดยทั่วไปคนไข้เป็นลมที่ได้รับการรักษาข้างต้น จะกลับฟื้นคืนสติในเวลาไม่กี่นาที ถ้าคนไข้ไม่ฟื้นคืนสติหลังการปฐมพยาบาลข้างต้น จะต้องตรวจรักษาแบบคนไข้หมดสติ ซึ่งจะได้กล่าวถึงในฉบับต่อ ๆ ไป
- เมื่อคนไข้ฟื้นคืนสติแล้ว ควรให้นอนพักหรือนั่งพักอย่างน้อยสัก 1-2 ชั่วโมง เพราะถ้าให้คนไข้ลุกขึ้น หรือกลับไปทำงานทันที จะเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมอีกได้
- เมื่อคนไข้รู้สึกตัวดีแล้ว ต้องตรวจหาสาเหตุของอาการเป็นลม เพื่อให้การป้องกันและรักษาสาเหตุ คนไข้จะได้ไม่เกิดอาการเป็นลมขึ้นอีก หรือถ้าเกิดขึ้นอีกก็ไม่รุนแรง และไม่ทำให้เกิดอันตรายได้สำหรับคนไข้ที่มีอาการหน้ามืด ให้รักษาเช่นเดียวกับคนไข้ที่เป็นลม แต่อาจให้นั่งแทนนอน (ถ้าไม่มีที่นอนที่สะอาดและไม่ขัดต่อความรู้สึก) เป็นต้น
สาเหตุส่วนใหญ่ของอาการหน้ามืดเป็นลมจะรู้ได้โดยการซักประวัติให้ดี การตรวจร่างกายจะให้ประโยชน์ในกรณีที่มีสิ่งผิดปกติหลงเหลือให้ตรวจพบเท่านั้น แต่ก็ควรตรวจร่างกายเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความผิดปกติใด ๆ หลงอยู่