กาบเชิง รณรงค์สุขภาวะชุมชนสถานศึกษาปลอดผลไม้ดอง
ที่มา : ข่าวสด
ภาพประกอบจากเว็บไซต์ สำนักข่าวนิวส์พลัส
โรงเรียนกาบเชิงวิทยา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เป็นโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ อยู่ในพื้นที่ชายแดนต้านตะวันออกของประเทศ สภาพแวดล้อมของโรงเรียนร่มรื่นเขียวชอุ่มด้วยพืชพรรณและป่าชุมชนด้านหลังโรงเรียนมีเนื้อที่กว่า 300 ไร่ และมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะ
แม้มีบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะ แต่ทั้งครูและเด็กนักเรียนของโรงเรียนยังมีพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ถูกลักษณะ โดยเฉพาะการชื่นชอบการบริโภค "ผลไม้ดอง" ชนิดต่างๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
หลังจากได้รับการชักชวนจากสมาคม ผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ คุณครูและนักเรียนของโรงเรียนกาบเชิงวิทยา จึงร่วมกันดำเนินโครงการชุด "พลังเด็กและเยาวชน สร้างสุขภาวะชุมชน กินเปลี่ยนโลก : อร่อย อันตราย ผลไม้ดอง" โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นางสาวฉัตรธิดา นาหนองบัว นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หนึ่งในแกนนำนักเรียน เล่าให้ฟังว่าแต่เดิมรอบๆ โรงเรียนมีร้านขายผลไม้ดองอยู่หลายร้าน รวมทั้งในโรงเรียนก็ยังมีร้านขายผลไม้ดองอีกด้วย ผู้ซื้อส่วนใหญ่มีทั้งเด็กนักเรียนและครู รวมทั้งตัวเธอเองก็เป็นหนึ่งในลูกค้าที่ซื้อผลไม้ดองเป็นประจำ หลังจากได้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนและอบรมกับทางศูนย์ของสมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทยฯ จึงได้รู้ถึงผลเสียของการบริโภคผลไม้ดอง จึงกลับมาร่วมคิดวางแผนร่วมกันเพื่อแกนนำนักเรียน โดยมีครูให้คำปรึกษา ตั้งเป้าหมายให้นักเรียนลดการซื้อผลไม้ดองหันไปกินผลไม้สดแทน
รอบโรงเรียนมีร้านผลไม้ดองอยู่เยอะมาก ตอนนั้นมีนักเรียนกินผลไม้ดองแล้วก็ปวดท้อง พอมีโครงการนี้เข้ามาเราก็เล็งเห็นว่าเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก่อนพวกหนูก็กิน พอมาเข้าโครงการนี้ มีการทดสอบพบว่ามีสารต่างๆ ในผลไม้ดองทำให้รู้สึกกลัว และไม่คิดที่จะกินอีกต่อไป และติดว่าควรเอาเรื่องนี้มาทำเป็นโครงการดีกว่า
ด้าน นางสาวอรุณรัตน์ ชมโพธิ์ เพื่อนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แกนนำนักเรียนอีกคน บอกว่าแต่เดิม เธอและเพื่อนๆ เป็นสมาชิกชุมนุม อย.น้อย จึงให้ความสนใจมาร่วมโครงการ เริ่มตั้งแต่การประชุมวางแผน สำรวจผู้บริโภค เขียนป้ายโปสเตอร์รณรงค์ติดตามจุดต่างๆ ของโรงเรียน มีการทำประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย บอกถึงโทษของสารที่เจือปนอยู่ในผลไม้ดองที่ส่งผลต่อร่างกาย จากนั้นก็ชักชวนนักเรียนเครือข่ายมาอบรม ตรวจสอบสารปนเปื้อนที่อยู่ในผลไม้ดอง พบมีทั้งสารฟอกขาว สารกันรา และบอแร็กซ์ ทำให้นักเรียนในเครือข่ายไม่ซื้อผลไม้ดองกินอีกต่อไป ส่งผลให้ร้านค้าที่เคยขายผลไม้ดองไม่มีผู้ซื้อจึงปรับเปลี่ยนมาขายผลไม้สดแทน
เราไม่ได้ตรวจสอบแค่ผลไม้ดองอย่างเดียว อย่างพวกหมูเด้ง หมึกสด เล็บมือนาง (ตีนไก่) เราก็นำมาตรวจสอบ ถ้าเจอสารอะไรก็จะบอก แต่ก่อนพวกหนูกินไม่เลือก ตอนนี้พวกเราลดการกินอาหารที่ไม่ถูกต้องลง ต้องเป็นตัวอย่างสร้างความน่าเชื่อถือให้รุ่นน้องๆ ก่อน
นางสาวฉัตรธิดา เสริมด้วยว่านอกจากการรณรงค์ในโรงเรียนจนได้ผลแล้ว ทางโรงเรียนยังจัดกิจกรรมตลาดนัดน้อย เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง รวมทั้งจัดกิจกรรมเปิดบ้านแนะนำโรงเรียน (Open House) นำความรู้สู่ชุมชน มีครูและคณะนักเรียนจากโรงเรียนอื่นๆ ให้ความสนใจร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้กลุ่มนักเรียนยังได้ดำเนินกิจกรรมต่อเนื่องเกี่ยวกับการบริโภคอาหารปลอดภัย ด้วยกิจกรรม "คบเด็กปลูกผัก" ทำแปลงปลูกผักในโรงเรียน และแจกเมล็ดพันธุ์คนละ 4 ชนิดให้นักเรียนไปปลูกที่บ้าน มีการติดตามผลลัพธ์จากสมุดบันทึกและภาพถ่ายพืชผักที่ปลูกที่บ้าน เรายังมีนักเรียนแกนนำอีก 26 คนนำไปบอกต่อของแต่ละบ้าน
ด้านครูอัจฉรา คำพูล ที่ปรึกษาโครงการให้ข้อมูลว่า ในตอนแรกที่ทราบเรื่องก็ยังไม่เข้าใจมากนักแต่พอได้รู้เป้าหมายของการดำเนินงาน และประกอบกับทางผู้บริหารก็ให้ ความสำคัญในเรื่องสุขภาพของนักเรียน และให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยบอกกับครูและนักเรียนทุกคนว่า ถ้าเด็กมีสุขภาพดี ก็จะไม่มีการขาด การลา มาสาย สามารถมาเรียนหนังสือได้อย่างเต็มที่ทุกวัน จึงดำเนินการตามกระบวนการเรื่อยมาจนประสบความสำเร็จ และไม่มีร้านค้าขายผลไม้ดองในโรงเรียนอีกต่อไป