กล้วยกวนเสวย โอท็อปฉีกแนว

จุดเริ่มต้นของกล้วยกวนเสวยเกิดจากความพยายามแก้ปัญหาพืชผลทางการเกษตรล้นตลาด และราคาตกต่ำช่วงปี 2542 จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ระดับ 4 ดาว ของตำบลอุทัยเก่า อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี

กล้วยกวนเสวย โอท็อปฉีกแนว

ผลิตภัณฑ์ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ระดับ 4 ดาว ของตำบลอุทัยเก่า อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานีไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ธัญชนก เปรมจิตร์ ตัวแทนกลุ่มสตรีแปรรูปอาหารบอกว่า จุดเริ่มต้นของกล้วยกวนเสวยเกิดจากความพยายามแก้ปัญหาพืชผลทางการเกษตรล้นตลาด และราคาตกต่ำช่วงปี 2542 ด้วยแนวคิดเพิ่มมูลค่าผลผลิตหลังได้รับความช่วยเหลือจาก กศน. กรมพัฒนาชุมชนส่งวิทยากรมาฝึกอบรม และให้คำแนะนำ จนผลิตภัณฑ์รุ่นแรกออกสู่ท้องตลาด

“แรกๆ ทำ ‘กล้วยอบเนย’ ก่อน แต่ตลาดเรื่องกล้วยก็ไม่ค่อยดี เพราะคนไทยชอบทำเลียนแบบ ทำเหมือนๆ กันหมด”

ธัญชนกเล่าว่า เท่าที่คลุกคลีทั้งฝ่ายผลิต และฝ่ายขาย คนทั่วไปจะติดคำว่า ‘กล้วยฉาบ’ เขาจะเรียกเหมารวมว่า กล้วยฉาบไว้ก่อน ทั้งที่กล้วยยังสามารถทำอะไรได้อีกเยอะ

ครั้งแรกที่ตั้งกลุ่มมี 15 คน ก็ลงหุ้นกัน แล้วก็มีทุนจัดอบรมจำหน่าย ตลาดก็เริ่มดีขึ้น จะทำหลายตัว กล้วยม้วนใบเตย กล้วยเกลียวสวรรค์ กล้วยรสปาปริกา และกล้วยกวนเสวย หรือกระยาสารทกล้วย (ใช้กล้วยแทนข้าวพองที่อยู่ในกระยาสารท) โอท็อป 4 ดาว ก็ฉีกแนวออกมา ไม่ให้ผลิตภัณฑ์ซ้ำ ไม่ว่าเราจะผลิตอะไรออกมา ก็จะมีคนทำตาม เราก็ต้องหนี ต้องฉีกแนวออกมา ทั้งเรื่องรสชาติและรูปแบบ

ตอนนี้ทางกลุ่มมีสมาชิกเพิ่มเป็น 30 คน ไม่มีปัญหาเรื่องตลาด เพราะทำตามออร์เดอร์ออกงานในส่วนราชการ อย่างเทศกาลปีใหม่คนจะสั่งใส่กระเช้า แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ วัตถุดิบขาด เครื่องปรุงขึ้นราคา (น้ำตาล น้ำมัน แก๊ส) ที่ทำต้องใช้แก๊ส ใช้ถ่าน ไม่ได้ เพราะไฟต้องสม่ำเสมอ

เมื่อมีปัญหาทางกลุ่มก็เลยเลือกทำแค่ 2 ตัว คือกล้วยกวนเสวย หรือกระยาสารทกล้วย กับกล้วยรสปาปริกา เนื่องจากทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์มีต้นทุนไม่สูงนัก ไม่ต้องใช้น้ำตาลมาก

ธัญชนกเล่าอีกว่า หากช่วงไหนมีกล้วยน้ำว้ามาก จะนำมาแปรรูปเป็นกล้วยกวนเสวย แต่สำหรับกล้วยรสปาปริกา ถ้าใช้กล้วยหักมุกจะสวยสีเหลืองเข้ม และขนาดชิ้นใหญ่ลักษณะคล้ายมันฝรั่งทอดกรอบ แต่ยังต้องสั่งซื้อผงปาปริกาจากกรุงเทพฯ มาคลุกกับกล้วย

สำหรับลูกค้าประจำพอเห็นว่าของที่เคยกินลดปริมาณลงมา คนที่ติดก็จะบอกว่าของเราน้อย แต่ก็อยู่ได้ เพราะลูกค้าเข้าใจว่า ของมันแพง แต่เราไม่ทำเยอะ เพราะถ้าซื้อของมาลงทุนเยอะ ทุนจะจม สมาชิกก็พออยู่ได้ มีรายได้ 2,500-3,000 บาท ต่อเดือน

ที่กลุ่มอยู่ได้ส่วนใหญ่ เวลามีผู้สนใจเข้ามาศึกษาดูงาน กลุ่มจะรับเรื่องอาหาร และของขบเคี้ยวมา แม่บ้านจะมาช่วยกัน

ที่มา: เว็บไซต์ปันสุข สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน

Shares:
QR Code :
QR Code