กระติบข้าวไม้ไผ่ ภูมิปัญญาที่สร้างสุข

           กระติบข้าวไม้ไผ่บ้านไชยสถาน จ.พะเยา นำภูมิปัญญาด้านธรรมชาติ ใช้ป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมและรักษาสุขภาพคนในชุมชน


/data/content/26444/cms/e_bdfglmnoqsu3.jpg


          "บ้านไชยสถาน" ต.ห้วยข้าวก่ำ อ.จุน จ.พะเยา เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่มีสภาพเหมือนชุมชนทั่วไป คือ มีปัญหาขยะเพิ่มขึ้นตามจำนวนสมาชิกชุมชน ซึ่งส่งผล กระทบต่อคุณภาพชีวิตคนในชุมชน ทั้งเรื่องสุขภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วย หรือผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องเฝ้าระวังสุขภาพอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยศักยภาพการรวมกลุ่มของชาวบ้านที่มีความพยายามสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นการจักสาน ประกอบกับพื้นที่ชุมชนมีต้นทุนด้านทรัพยากรธรรมชาติ คือ ไม้ไผ่บง ทำให้เกิดแนวคิดการนำภูมิปัญญามาใช้ป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมและรักษาสุขภาพคนในชุมชน


  /data/content/26444/cms/e_ciknqrtvy679.jpg        มณู ไชยจำเริญ ผู้ใหญ่บ้านไชยสถาน กล่าวว่า สุขภาพของคนในชุมชนจะดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ปัจจุบันปัญหาขยะพลาสติกมีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะย่อยสลายไม่ได้ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ผู้ทรงภูมิปัญญาท้องถิ่นและกลุ่มผู้สูงอายุ จึงหารือทางออกในการลดปริมาณการใช้พลาสติกลง โดยนำภูมิปัญญาท้องถิ่น เครื่องจักสาน "กระติบข้าว" มาใช้ทดแทนพลาสติก ทั้งใส่ข้าวเหนียวแทนการใช้ถุงพลาสติก ปรากฏว่านอกจากช่วยลดปริมาณขยะลงมาก อีกทั้งคนรับประทานไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายจากพลาสติกด้วย ขณะเดียวกันยังสร้างความตระหนักถึงการรักษาป่าชุมชน รักษาสิ่งแวดล้อม และประชาชนมีรายได้เสริมจากการทำกระติบข้าวไม้ไผ่ขาย


          "พ่อคล้าย สุริยะวงศ์" ผู้ทรงภูมิปัญญาท้องถิ่นแห่งบ้านไชยสถาน วัย 73 ปี เล่าว่า กว่า 30 ปี แล้วที่นำความรู้ ภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษถ่ายทอดมาใช้ในการผลิตกระติบข้าว ซึ่งนอกจากได้ใช้ประโยชน์แล้วยังช่วยลดขยะถุงพลาสติกลงด้วย


          "ปัจจุบันเวลาหมู่บ้านมีงาน จะใช้กระติบข้าวใส่ข้าวเหนียวแทนถุงพลาสติก ซึ่งไม่เป็นอันตราย อีกทั้งกระติบไม้ไผ่หนึ่งอัน มีอายุการใช้งานอย่างต่ำ 5-10 ปี บางอันถ้าเลือกไม้ที่แก่กำลังดีและจักสานแน่นหนา จะอยู่ได้ถึง 30 ปีทีเดียว ยังสร้างรายได้ให้พวกเราคนแก่ด้วย ทำให้เราไม่ต้องอยู่ว่างๆ การมีงาน ทำให้สบายใจ ไม่เครียด ไม่ป่วย เพราะทำตัวมีคุณค่ากับชุมชนและสังคม ลูกหลานได้พึ่งพา"


          ไพรสณย์ ราหูรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลห้วยข้าวก่ำ กล่าวว่า ที่มาของการผลิตกระติบข้าว สืบเนื่องจากนายล้วน อะนุมา ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ต.ห้วยข้าวก่ำ ทำโครงการพัฒนาศักยภาพส่งเสริมการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและผู้พิการ ผู้ป่วยเรื้อรัง โดยชุมชนของบ้านไชยสถาน หมู่ 7 ต.ห้วยข้าวก่ำ ซึ่งเทศบาลตระหนักถึงคุณภาพชีวิตและบริบทของสังคมในชุมชนที่ผู้คนเอื้ออาทรกันและกัน เทศบาลจึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และได้รับทุนสนับสนุนโครงการ 170,000 บาท จึงนำมาต่อยอดกิจกรรม


          "กระติบข้าวของชาวบ้านไชยสถาน มีการพัฒนาไปอย่างเข้มแข็งจนเป็นแบบอย่างชุมชนพึ่งตนเองอย่างดี มีกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มผู้สูงอายุ เข้าร่วมกิจกรรม ยังสร้างรายได้เสริมแก่สมาชิกในชุมชนได้อย่างน่า พอใจ จากกระติบข้าวไม้ไผ่ที่ส่งขายในราคาอันละ 50 บาท แต่ด้วยจุดแข็งเรื่องของกระติบข้าวที่มีความเหนียว ทน ไม่แตกหักง่าย และอายุการใช้งานยาวนาน ทำให้มีออร์เดอร์ สั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนแทบผลิต ไม่ทันขาย บางรายทำส่งให้ลูกหลานที่ประเทศญี่ปุ่นใช้ในธุรกิจส่วนตัว ที่สำคัญบ้านไชยสถานมีป่าชุมชน ป่าไผ่เป็นของตัวเอง ชาวบ้านช่วยกันรักษาป่า ซึ่งเป็นต้นทุนทางสังคม ทำให้เกิดผลิตผลที่ผนวกกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ถือเป็นแบบอย่างชุมชนที่มีความเข้มแข็ง และกำลังขยายไปสู่ชุมชนในพื้นที่ทั้งหมดต่อไป"


 


 


     ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน


     ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code