กรมขนส่งฯสั่งห้ามผู้ป่วยโรคลมชักทำใบขับขี่
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
กรมการขนส่งทางบก เข้มงวดตรวจสอบใบรับรองแพทย์ผู้ขอรับและต่ออายุใบอนุญาตขับรถตามมติคณะกรรมการแพทยสภา เพิ่มโรคลมชักในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอาการชักได้เป็นโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ ไม่สามารถขอรับใบอนุญาตขับรถได้
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้การขอรับใบอนุญาตขับรถต้องใช้ใบรับรองแพทย์แสดงว่าไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถเป็นหลักฐานประกอบการขอดำเนินการ
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้หารือร่วมกับแพทยสภาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการตรวจสุขภาพเพื่อออกใบรับรองแพทย์สำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถให้เป็นปัจจุบันรองรับสภาวะโรคต่างๆ รวมถึงประเด็นปัญหาของผู้ป่วยโรคลมชักซึ่งเกิดอุบัติเหตุจากอาการชักในระหว่างขับรถ และเมื่อปี 2560 คณะกรรมการแพทยสภาได้มีมติ ให้ “โรคลมชักในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอาการชักได้” เป็นโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ เว้นแต่แพทย์ผู้ให้การรักษารับรองว่าผู้ป่วยไม่มีอาการชักเกินกว่า 2 ปี
กรมการขนส่งทางบกจึงได้ กำชับนายทะเบียนทั่วประเทศ เข้มงวดตรวจสอบลักษณะต้องห้ามในการขอรับใบอนุญาตขับรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสำนักงานขนส่ง โดยให้ตรวจสอบหลักฐานใบรับรองแพทย์ที่ใช้ประกอบคำขอต้องเป็นใบรับรองแพทย์ตามแบบมาตรฐานที่แพทยสภารับรอง ไม่ปรากฏอาการของการติดยาเสพติดให้โทษ ไม่ปรากฏอาการของโรคพิษสุราเรื้อรัง และไม่ปรากฏอาการและอาการแสดงของโรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือในระยะปรากฏอาการ วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะปรากฏอาการ จึงจะสามารถดำเนินการขอรับใบอนุญาตขับรถได้ตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก
สำหรับโรคประจำตัวบางกลุ่มอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถยังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภาที่อาจกำหนดเพิ่มเติมในอนาคต เช่น โรคเบาหวานระยะที่ต้องฉีดอินซูลิน โรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดทางสมอง ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายที่ผ่านการผ่าตัดหัวใจหรือขยายเส้นเลือดหัวใจซึ่งแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเป็นอุปสรรคต่อการขับรถ เป็นต้น ซึ่งต้องมีการพิจารณาหลักเกณฑ์และกำหนดรายละเอียดของใบรับรองแพทย์ให้สามารถคัดกรองผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ ได้อย่างปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนรวม