กทม.ยังเข้มกำจัดหนูในเขตเมือง
ที่มา : แนวหน้า
แฟ้มภาพ
สำนักอนามัย ร่วมมือ 50 สำนักงานเขต การจัดการสัตว์และแมลงนำโรคในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งในส่วนของตลาด รวมถึง ห้างร้านเอกชน
แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการควบคุมดูแลสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และการจัดการสัตว์และแมลงนำโรคในพื้นที่กรุงเทพฯ จากกรณีมีการระบุถึงการเพิ่มจำนวนประชากรหนูในพื้นที่กรุงเทพฯ มากกว่า 1 ล้านตัว สาเหตุจากการจับงู ศัตรูของหนูไปปล่อยธรรมชาติ ทำให้นิเวศน์ ของการควบคุมสัตว์เปลี่ยนไปนั้น เชื่อว่า ในประเด็นนี้มีผลไม่มากนัก เพราะนิเวศน์ ในเขตเมืองจะต่างจากนิเวศน์ในป่า สัตว์และ แมลงนำโลกโดยเฉพาะหนูในเขตเมือง หลักสำคัญคืออาหาร พวกขยะตกค้าง ตามตลาด ร้านอาหาร หากไม่มีการจัดเก็บ ให้ดีก็จะเป็นแหล่งอาหารให้หนูเข้ามา แพร่พันธุ์เพิ่มขึ้น
ซึ่งสำนักอนามัย ได้ประสานความ ร่วมมือ 50 สำนักงานเขต เข้าไปจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งในส่วนของตลาด รวมถึง ห้างร้านเอกชนได้ขอความร่วมมือดูแล โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปให้คำแนะนำ นอกจากนี้ มีการดักจับหนูในระบบท่อระบายน้ำเป็นประจำ สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีการระบาดเพิ่มจำนวนต่างไปจากเดิมมากนัก ในส่วนของบ้านเรือนประชาชนแนะนำให้ดูแลความสะอาดไม่ให้มีเศษ อาหารตกค้าง โดยกทม.ก็ต้องเข้าไปจัดเก็บ ขยะตามเวลาไม่ให้มีขยะตกค้างด้วย หากประชาชนพบหนูจำนวนมาก แจ้งได้ที่ 1555 จะจัดส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปจัดการ
ในส่วนของพื้นที่รอบนอกรวมถึงสวนสาธารณะของ กทม. นางสุวรรณา จุ่งรุ่งเรือง รองปลัดกทม. กล่าวว่า ในการควบคุมสัตว์ตามวงจรธรรมชาติ กทม. พยายามรักษาสมดุลซึ่งสามารถควบคุมได้ ภายในพื้นที่สวนสาธารณะของกทม. เช่น สวนลุมพินี จะควบคุมจำนวน ตัวเงินตัวทอง ให้อยู่จำนวน 400 ตัว ก็จะสมดุลสามารถ ควบคุมสัตว์อื่นๆ ไปตามวงจรธรรมชาติได้ ส่วนในพื้นที่อื่นๆ ในชุมชน หรือที่พักอาศัย บ้านเรือนของประชาชน เรา ไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากได้รับแจ้ง ก็จะรีบเข้าไปจับให้ทันที ทั้ง ตัวเงินตัวทอง งู และหนู
หากช่วงใดพบตัวเงินตัวทองมาก มีการจับไปมาก จำนวนงูก็จะเพิ่มขึ้น เมื่อจับงู หนูก็จะเพิ่มขึ้น เป็นไปตามวงจร ธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขปัญหาหนูบุกรุกบ้านเรือน ที่ผ่านมา กทม. ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการจัดเก็บขยะ โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทิ้งขยะตามจุดทิ้งตามเวลาเพื่อไม่ให้มีขยะตกค้าง เป็นแหล่งอาหารให้กับหนู ซึ่งปัจจุบันปัญหานี้ลดน้อยลง ได้รับความร่วมมือจากประชาชนมากขึ้น