กทม.-ปริมณฑลฝุ่นฟุ้ง! 21พื้นที่

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  

แฟ้มภาพ

          "กรมควบคุมมลพิษ"แจง "กทม.-ปริมณฑล" อ่วมฝุ่นฟุ้งเมือง เกินมาตรฐาน PM2.5 ครอบคลุม 21 พื้นที่ เผยเขตดินแดงหนักสุด เจอฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10)ด้านปลัดกระทรวงสาธารณสุข ห่วงผู้ป่วยหอบ หืด ภูมิแพ้ โรคหัวใจสุ่มเสี่ยง ขณะที่อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะปฏิบัติตามหลัก "หลีก ปิดใช้ เลี่ยง ลด" ส่วน "กทม." สั่ง 50 เขต ระดมฉีดน้ำลดวิกฤติพร้อมแจกยา-หน้ากากป้องกัน

          เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ว่า จากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่อากาศในช่วงเช้าลักษณะอากาศไม่เสถียรภาพ มีเมฆบางส่วน ส่งผลทำให้สถานการณ์ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพ มหานคร และปริมณฑล คุณภาพอากาศอยู่ในระดับต่ำซึ่งเริ่มจะมีผลกระทบต่อสุขภาพปริมาณของฝุ่นละอองได้เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ริมถนนที่มีค่าเกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) เป็นวงกว้างอยู่ใน 21 พื้นที่ ขณะที่ใน 11 พื้นที่ ซึ่งมีปัญหาเดียวกัน แต่ยังไม่สูงเกินมาตรฐานมากนัก ทั้งนี้มีการคาดการณ์จากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยาว่า คุณภาพอากาศในวันที่ 7 ม.ค.นี้ คุณภาพของอากาศจะอยู่ในระดับปานกลางถึงต่ำจนเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

          ต่อมาเวลา 12.30 น. ทาง คพ. ได้รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลอีกครั้งซึ่งปรากฏว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับ "คุณภาพปานกลาง" ถึง "เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ" โดยตรวจพบสารมลพิษทางอากาศเกินมาตร ฐานค่าฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) สูงระหว่าง 48-81 มคก./ลบ.ม. ซึ่งเท่ากับว่าเกินมาตรฐาน ในพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้ 1.ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน 2.แขวงบางนา เขตบางนา 3.แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ 4.แขวงดินแดง เขตดินแดง 5.ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี 6.ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง 7.ริมถนนดินแดง เขตดินแดง

          8.แขวงพญาไท เขตพญาไท 9.แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง 10.ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม 11.ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 12.ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 13.ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 14.ต.ตลาด อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 15.ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 16.ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 17.ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และ 18.ริมถนนคู่ขนานพระราม 2 อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ขณะที่บริเวณถนนดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ ตรวจพบค่าฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) อยู่ระหว่าง 62-124 มคก./ลบ.ม. ซึ่งถือว่าเกินมาตรฐานไปมาก

          ทั้งนี้ทาง คพ. จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิดอย่าตื่นตระหนก กลุ่มคนทั่วไปสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ สำหรับกลุ่มเสี่ยงได้แก่ เด็ก คนชรา หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้มีโรคประจำตัว ควรหมั่นสังเกตอาการ หากพบความผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศทันสถาน การณ์ผ่านเว็บไซต์ www.air4thai.pcd.go.th และแอพพลิเคชั่น air4thai ตลอด 24 ชั่วโมง

          ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก และผู้ที่ทำงานนานกว่า 12 ชั่วโมงในที่โล่งแจ้ง รวมทั้งผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ และโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งฝุ่นละอองขนาดเล็กเหล่านี้อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคเยื่อบุตาอักเสบ และโรคผิวหนัง อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกเพราะยังสามารถ ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ แต่ขอให้ตื่น ตัว และติดตามข่าวสารเรื่องดังกล่าวจากทางราชการอย่างใกล้ชิดเนื่องจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่ได้เกินค่าในทุกพื้นที่ และพื้นที่ที่มีค่าเกินมาตรฐานก็ไม่ได้ค่าสูงอยู่ตลอดเวลา

          ขณะที่ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับวิธีป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนเข้าสู่ร่างกาย มี 5 มาตรการ คือ "หลีก ปิด ใช้ เลี่ยง ลด" 1.หลีกการสัมผัสฝุ่นละอองโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็กและผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ 2.ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด ป้องกันฝุ่นละออง หมั่นทำความสะอาดบ้านทุกวัน 3.ใช้หน้ากากที่มีประสิทธิภาพในการ กรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้ เช่น N 95, P100 4.เลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำงานนานกว่า 12 ชั่วโมงในที่โล่งแจ้ง และ 5.ลดการใช้รถยนต์และการเผาขยะ ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่นหายใจติดขัด แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ หรือหมดสติ ให้รีบไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลโดยเร็ว หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรคหมายเลข 1422

          ในส่วนของนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขว่า ได้สั่งกำชับให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งการควบคุมปัญหาฝุ่นละออง อาทิ โครงการตรวจเข้มรถยนต์ควันดำพื้นที่, โครงการนำร่องถนนอากาศสะอาด, เฝ้าระวังคุณภาพอากาศตามแหล่งกำเนิดเช่น สถานที่ก่อสร้าง ยานพาหนะ หรือเตาเผาศพให้เป็นไปตามมาตรฐาน และถูกสุขลักษณะ นอกจากนี้ยังจะล้างทำความสะอาดท้องถนน และปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวตามแผนที่กำหนด อย่างไรก็ตาม กทม.ได้เตรียมยาและหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนและเยาวชนด้วย.