Page 44 - แผนการดำเนินงาน สสส. ประจำปี 2561
P. 44








๓. พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของวัยรุ่นไทยเพิ่มขึ้น ข้อมูลจากการส�ารวจของส�านักงาน

สถิติแห่งชาติ พบว่า สัดส่วนของนักดื่มเยาวชน (อายุ ๑๕ - ๑๙ ปี) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๑๑.๐ ในปี ๒๕๔๔
เป็นร้อยละ ๑๙.๑ ในปี ๒๕๕๘ ซึ่งอายุเฉลี่ยของผู้ดื่มครั้งแรกเฉลี่ยเริ่มต้นดื่มเมื่อ อายุ ๒๐.๘ ปี วัยรุ่นชาย

ดื่มเร็วกว่าหญิง (๑๙.๔ ปี และ ๒๕ ปี ตามล�าดับ) สาเหตุหลักของการดื่มในวัยรุ่นทั้งหญิงและชาย คือ
เพื่อเข้าสังคม/สังสรรค์ (ร้อยละ ๔๑.๙) เลียนแบบเพื่อน/เพื่อนชวนดื่ม (ร้อยละ ๒๗.๓) และอยากลองดื่ม (ร้อยละ
๒๔.๔) ๑๗,๑๘
42
๔. นักดื่มที่อยู่นอกเขตเทศบาลสูงกว่านักดื่มที่อยู่ในเขตเทศบาลตลอดช่วงเวลา โดยในปี ๒๕๔๔
มีนักดื่มในเขตเทศบาลร้อยละ ๒๘.๙ และนอกเขตเทศบาลร้อยละ ๓๔.๕ และในปี ๒๕๕๘ ๑๗,๑๘ มีนักดื่มในเขต
เทศบาลร้อยละ ๓๒.๘ และนอกเขตเทศบาลร้อยละ ๓๔.๖ โดยสถานการณ์การบริโภคแอลกอฮอล์ในภูมิภาค

จากข้อมูลผลส�ารวจของส�านักงานสถิติแห่งชาติในปี ๒๕๕๘ พบว่า ภาคเหนือมีความชุกของนักดื่มสูงสุดคือ
ร้อยละ ๔๑.๗ รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ ๓๙.๑ ภาคกลาง ร้อยละ ๓๑.๘ และภาคใต้
มีความชุกของนักดื่มน้อยที่สุด เมื่อพิจารณารายจังหวัดพบว่า จังหวัดที่มีความชุกของนักดื่มสูงที่สุด ได้แก่

จังหวัดพะเยา รองลงมาคือ จังหวัดแพร่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดนครพนม และจังหวัดน่าน นอกจากนี้
๒๐
เมื่อวิเคราะห์ดัชนีความเสี่ยงต่อปัญหาแอลกอฮอล์ พบว่า จังหวัดพะเยา มีความเสี่ยงสูงที่สุด รองลงมา
คือ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดแพร่ จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเชียงใหม่


๕. ด้านปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชากรไทย พบว่า ปริมาณการบริโภคเฉลี่ยมี
แนวโน้มลดลงจาก ๘.๐๙ ลิตรต่อคนต่อปี ในปี ๒๕๔๐ เป็น ๖.๙๕ ลิตรต่อคนต่อปี ในปี ๒๕๕๘ โดยประเภท
๒๑
แผนการดำาเนินงานประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่บริโภค ในปี ๒๕๕๗ (ตอบได้มากกว่า ๑ ประเภท) พบว่าส่วนใหญ่ดื่มเบียร์
มากที่สุดคือ ร้อยละ ๖๕.๘ อันดับสองเป็นสุราสี/สุราแดงราคาถูกร้อยละ ๔๒.๑ อันดับสามสุราขาวและสุรากลั่น
ชุมชนร้อยละ ๓๙.๓ อันดับสี่คือสุราสี/สุราแดงที่มีราคาแพงร้อยละ ๑๒.๖ และอันดับห้าคือ ไวน์คูลเลอร์/สุรา

ผสมน�้าผลไม้/เหล้าปั่น ร้อยละ ๗.๓ ๒๒
๖. ภาษีสรรพสามิตจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประเทศไทย ที่เคยมีอัตราเพิ่มถึงร้อยละ

๓๘.๖ ในปี ๒๕๔๕ ได้ค่อยๆ ลดลงเป็นร้อยละ ๑๖.๑ ๑๑.๐ และ ๗.๕ ตามล�าดับ ในปี ๒๕๔๖ – ๒๕๔๘ และ
ในปี ๒๕๔๙ อัตราเพิ่มดังกล่าวเปลี่ยนเป็นอัตราลดร้อยละ ๒.๐ คิดเป็นมูลค่า ๑,๓๘๙ ล้านบาท ส�าหรับภาษี

ในปี ๒๕๕๐และ ๒๕๕๑ มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๖.๔ และ ๖.๓ ตามล�าดับ อันเนื่องมาจากการเพิ่มอัตราภาษี
ของรัฐบาลในวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๐ และเมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๒รัฐบาลได้ประกาศเพิ่มอัตราภาษี
ขึ้นอีกครั้ง โดยภาษีในปี ๒๕๕๒ ยังคงมีอัตราลดเป็นร้อยละ ๓.๖ และมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๖.๓ และ ๘.๘

ในปี ๒๕๕๓ และ ๒๕๕๔ ตามล�าดับ ๒๓



๑๗ การส�ารวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากร, ส�านักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗, ๒๕๕๐, ๒๕๕๔, ๒๕๕๗.
๑๘ การส�ารวจอนามัยและสวัสดิการ, ส�านักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๙, ๒๕๕๒, ๒๕๕๖, ๒๕๕๘.
๒๐ ดัชนีความเสี่ยงต่อปัญหาแอลกอฮอล์ เป็นตัวชี้วัดแบบดัชนีผสมผสาน ซึ่งประกอบด้วย ๕ ประเด็นหลัก ได้แก่ ความชุกของนักดื่มในประชากร
ผู้ใหญ่สัดส่วนของการดื่มประจ�าของนักดื่มผู้ใหญ่ทั้งหมด สัดส่วนการนักดื่มหนักของนักดื่มผู้ใหญ่ทั้งหมด สัดส่วนของการดื่มแล้วขับ
ยานพาหนะ และความชุกของนักดื่มในประชากรวัยรุ่น
๒๑ ปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชากรไทย (ค�านวณจากข้อมูลปริมาณจ�าหน่าย ปริมาณผลิตสุราพื้นเมือง และปริมาณ
น�าเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากกรมสรรพสามิต และข้อมูลจ�านวนประชากรกลางปี (อายุ ๑๕ ปีขึ้นไป) จากส�านักนโยบายและยุทธศาสตร์
ส�านักปลัดกระทรวงสาธารณสุข).ศูนยวิจัยปัญหาสุรา.๒๕๕๘.
๒๒ การส�ารวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากร พ.ศ. ๒๕๕๗, ส�านักงานสถิติแห่งชาติ.
๒๓ ข้อมูลจากเว็บไซต์กรมสรรพสามิต https://edweb.excise.go.th/stastw/CompareOverAllTaxStatisticByProdYearAction.do
เข้าถึง กรกฎาคม ๒๕๕๕
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49