“เยาวชนพิการ กทม.” เรียนดี มีงานทำ สสส.–อว -มศว.-ภาคีฯ เปิดพื้นที่เสริมทักษะ เชื่อมเส้นทางอาชีพ หลังพบ “เด็กพิการ” มีโอกาสเรียนต่อ 1.45%
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
ภาพประกอบจาก สสส.

งานเดียวในไทย! “เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ” สสส. สานพลัง อว.-มศว.-มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม-มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม-ภาคีเครือข่าย ขนทัพมหกรรมแนะแนวการศึกษา ปั้นพอร์ต-ปั้นฝัน-ปั้นคำ สะพานเชื่อมการศึกษาสู่การมีงานทำ หลังพบคนพิการไทย 3 ล้านคน มีโอกาสศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาเพียง 1.45% มุ่งผลักดันเข้าระบบการศึกษาสูงสุด เพื่ออนาคตที่ดีและเท่าเทียม

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 พ.ย. 2568 ที่อาคารนวัตกรรม ศาสตราจารย์ ดร.สาโรช บัวศรี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) จัดงาน “เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ” มหกรรมแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการแห่งเดียวในประเทศไทย เพื่อเปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าถึงข้อมูลการศึกษาต่อ ค้นพบศักยภาพตนเอง และเห็นเส้นทางอาชีพที่เหมาะสม พร้อมสร้างโอกาสการมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต

นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปี 2568 พบว่า ไทยมีผู้พิการ 3,011,000 คน และแม้ว่าในกรุงเทพฯ จะมีโอกาสทางการศึกษามากกว่า แต่พบว่าเด็กพิการในกรุงเทพฯ มีโอกาสศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาเพียง 31,512 คน หรือ 1.45% ซึ่งอุปสรรคสำคัญของชีวิตคนพิการเริ่มตั้งแต่ช่วงวัยเรียน ทั้งมีข้อจำกัดด้านรายได้ การเดินทางสาธารณะ สถานศึกษาที่ไม่พร้อม และบุคลากรที่ยังไม่สามารถรองรับความต้องการพิเศษได้ ส่งผลให้มีเด็กและเยาวชนพิการต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา และมีข้อจำกัดในการเลือกอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตในอนาคต

นางภรณี กล่าวต่อว่า สสส. มุ่งเน้นการพัฒนาสุขภาวะคนพิการผ่านการสนับสนุนคุณภาพชีวิตคนพิการอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี โดยงานมหกรรมครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง “ระบบสนับสนุนสุขภาวะคนพิการแบบองค์รวม” ที่เชื่อมโยงการศึกษา อาชีพ และสุขภาพเข้าด้วยกัน โดยเปิดพื้นที่ให้เด็กพิการได้พบกับสถาบันการศึกษาและหน่วยสนับสนุนจาก 16 องค์กร ผ่านกิจกรรมเรียนรู้ 3 ส่วน คือ “ปั้นพอร์ต ปั้นฝัน ปั้นคำ” ให้คำแนะนำด้านอาชีพ ช่วยทำ Portfolio รวมข้อมูลสถาบันที่เปิดรับ และถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 250 คน มีมหาวิทยาลัยที่ร่วมให้ข้อมูลในการศึกษาต่อกับนักศึกษาพิการ 16 มหาวิทยาลัย เพราะเยาวชนพิการทุกคนต้องมีสิทธิและโอกาสเรียนในสิ่งที่อยากเรียน เป็นในสิ่งที่อยากเป็น และเข้าถึงการศึกษาที่เท่าเทียมกับเด็กทั่วไป เพื่อให้อนาคตไม่ต้องมีคำถามว่า “เด็กพิการเรียนไหนดี”

“นอกจากนี้ สสส. ยังมุ่งขับเคลื่อนการ “สร้างงานสร้างอาชีพ สร้างสุขภาวะที่ดี โดยพัฒนาคุณภาพชีวิต 4 มิติ คือ สุขภาวะทางกาย ใจ ปัญญา และสังคม ผ่านการส่งเสริมการจ้างงานตามมาตรา 33/35 เปิดโอกาสงานกว่า 50,000 งาน ส่งรายได้ตรงถึงมือคนพิการกว่า 5,500 ล้านบาท และปีนี้ยังได้ต่อยอดความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ผ่านโครงการ “การจ้างงานคนพิการ กทม. 3 ดี” ทำให้คนพิการมีงานทำมากขึ้น” นางภรณี กล่าว

นายศุภโชค สุขมาก รักษาการผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนากำลังคน สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า อว. มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยพัฒนากลไกการดูแลนักศึกษาอย่างทั่วถึง ซึ่งรวมถึงการจัดตั้ง ศูนย์บริการสนับสนุนนักศึกษาพิการ (DSS Center) และการปรับสภาพแวดล้อมให้เป็น Universal Design เพื่อให้มั่นใจว่า ความพิการจะไม่ใช่อุปสรรคในการเข้าถึงองค์ความรู้ การที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการจัดตั้งศูนย์บริการเหล่านี้ ถือเป็นความสำเร็จของการสร้าง “ระบบนิเวศการศึกษา” ที่เข้มแข็ง โดยหลังจากนี้จะมีการผลักดันให้เยาวชนพิการมีส่วนร่วมกับตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา และ อว.แฟร์ เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงการศึกษาพร้อมกับเด็กทั่วไปได้อย่างเท่าเทียม

รศ.ดร. ชลวิทย์ เจียรจิตต์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า มศว. ยึดมั่นในปรัชญา “ปัญญาเพื่อสังคม” เพราะเชื่อว่าปัญญาและความรู้ต้องถูกใช้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเข้าใจในสังคม นั่นคือการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้อย่างเท่าเทียมและมีคุณภาพ การที่ มศว. ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินหน้าเพิ่มจำนวนนักศึกษาพิการในมหาวิทยาลัย พร้อมพัฒนาสภาพแวดล้อมและระบบสนับสนุนการเรียนรู้ที่เอื้อต่อทุกคน (Inclusive Learning Environment) ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงสภาพแวดล้อม การจัดหาเครื่องมือและเทคโนโลยี ตลอดจนการสนับสนุนทางวิชาการ เพื่อให้มั่นใจว่าน้องๆ เยาวชนพิการที่สนใจศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา จะสามารถใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข

นายอภิชาติ การุณกรสกุล ประธานกรรมการมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม กล่าวว่า ภารกิจหลักของมูลนิธิฯ คือการทำให้คนพิการได้รับการ “จ้างงานอย่างมีคุณค่า” ซึ่งไม่เพียงแต่การจัดหางาน แต่เป็นการสร้างความรู้สึกมีส่วนร่วม มีศักดิ์ศรี และสามารถพึ่งพาตนเองได้ในสังคม โดยร่วมกับมูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม นำฐานข้อมูลการศึกษาสำหรับเด็กพิการจาก โครงการ “เด็กพิการเรียนไหนดี” มาเชื่อมโยงกับความเชี่ยวชาญด้านการจ้างงานและพัฒนาทักษะวิชาชีพของมูลนิธิฯ เพื่อสร้างสะพานเชื่อมช่องว่างระหว่างการศึกษาและการทำงาน ให้คนพิการสามารถเข้าถึงตำแหน่งงานที่มีคุณภาพได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยให้คนพิการมีชีวิตที่มั่นคงและพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว

นายฉัตรชัย อภิบาลพูนผล ประธานมูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม กล่าวว่า เป้าหมายหลักของการจัดงานครั้งนี้คือต้องการสร้างการตระหนักรู้ในวงกว้างว่า คนพิการมีศักยภาพ สามารถเรียนต่อ ทำงาน และประสบความสำเร็จได้อย่างเท่าเทียม หากสังคมเปิดโอกาสให้มีแหล่งรวบรวมข้อมูลทางการศึกษาที่เข้าถึงได้จริง ซึ่งปัจจุบันมีเด็กพิการได้เข้าสู่ระบบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศแล้วกว่า 500 คนต่อปี จึงอยากให้น้องๆ ทุกคนให้ใช้โอกาสนี้อย่างเต็มที่ เข้าไปค้นหาตัวเองผ่านเวิร์กชอป เข้าไปซักถามอาจารย์และรุ่นพี่ เพื่อออกแบบเส้นทางการเรียนรู้สู่การจ้างงานที่มั่นคง ด้วยตัวของน้องๆ เอง โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจเด็กพิการเรียนไหนดีและเพจนับเราด้วยคน


