13 เม.ย. 63 4,417 ครั้ง ข้อปฏิบัติประชาชนสำหรับเทศกาลสงกรานต์ในช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 ว่าปกติประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อกลับไปหาญาติผู้ใหญ่ แต่ด้วยโรคระบาดจึงต้องงดกิจกรรมที่จะทำให้เกิดการรวมตัวกันของผู้คนจำนวนมาก คนทำงานในกรุงเทพมหานครไม่ควรกลับภูมิลำเนาไปแสดงความรักกับผู้สูงอายุ จะเป็นการนำเชื้อไปแพร่ให้กับคนที่รัก สามารถแสดงความรักได้ในวิธีอื่น เช่น การสื่อสารทางโทรศัพท์
10 เม.ย. 63 3,045 ครั้ง ข้อมูลทั้งในและต่างประเทศตรงกันว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ยิ่งเป็นผู้สูงอายุอัตราการเสียชีวิตยิ่งสูง โดยข้อมูลของประเทศไทย พบว่า ช่วงอายุ 60-69 ปี มีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 149 ราย เสียชีวิต 1 ราย คิดเป็นอัตรา 0.7% ช่วงอายุ 70-79 ปี มีผู้ป่วย 57 ราย เสียชีวิต 6 ราย คิดเป็นอัตรา 10.5% ช่วงอายุ 80 ปีขึ้นไป มีผู้ป่วย 12 ราย เสียชีวิต 2 ราย คิดเป็นอัตรา 16.7% และผู้เสียชีวิตจำนวน 20 ราย เป็นผู้สูงอายุ 9 ราย เรียกว่าเสียชีวิตเกือบครึ่งหนึ่ง คือ 45% ขณะที่กลุ่มที่ติดเชื้อรายใหญ่ของประเทศ 70% มาจากกลุ่มอายุ 20-39 ปี ซึ่งยังเป็นวัยทำงาน กลุ่มลูกหลานที่มีโอกาสนำเชื้อไปติดผู้สูงอายุในบ้านได้ จึงอยากสื่อสารทำความเข้าใจเรื่องนี้
09 เม.ย. 63 20,403 ครั้ง ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ ทำให้เห็นพลังของคนไทยที่ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีด้วยการ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" หนึ่งในมาตรการสำคัญที่จะช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ เชื่อว่าการกักตัวเองอยู่ที่บ้าน มีส่วนช่วยให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลง แต่ในอีกมุมหนึ่ง การกักตัวเองอยู่บ้านนานๆ เพื่อเฝ้าระวังตนเองในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 อาการเหงาและเครียดก็เกิดขึ้นได้
08 เม.ย. 63 6,128 ครั้ง ในขณะที่ทั่วโลกกำลังต่อสู้เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ซึ่งทุกคนมีโอกาสติดเชื้อได้ และปัจจุบันยังไม่มียาที่มีผลในการต้านไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะ ดังนั้นการรักษาจะใช้วิธีรักษาตามอาการ หากไข้สูง ให้ทำการลดไข้ เมื่อมีอาการไอ ก็ทำให้หยุดไอ และวิธีการเสริม คือการเสริมสร้างโภชนาการและเพิ่มภูมิต้านทาน ดังนั้นคนที่สุขภาพดีมีภูมิต้านทานแข็งแรงก็มีความเสี่ยงที่จะติดโรคน้อยลง ด้วยเหตุนี้ระหว่างที่ต้องกักตัวเองในบ้านก็ควรใช้โอกาสนี้ปรับพฤติกรรมการกินใหม่โดยหันมาเพิ่มผักและผลไม้นำในมื้ออาหารมากขึ้นและมีปริมาณเพียงพอในแต่ละวัน เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อ COVID-19
07 เม.ย. 63 2,820 ครั้ง ขณะนี้กรุงเทพมหานครจัดเก็บขยะติดเชื้อจากสถานพยาบาลและ โรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมาณเพิ่มขึ้นอยู่ที่จำนวนวันละ 42 ตัน นำไปเผาในเตาเผาขยะติดเชื้อที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม หรือศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ซึ่งสามารถรับได้ 60 ตัน/วัน ในส่วนของขยะติดเชื้อและหน้ากากอยามัยใช้แล้วจากบ้านเรือนประชาชน รวมถึงจุดที่กรุงเทพมหานครตั้งถังขยะสำหรับทิ้งหน้ากากอนามัยใช้แล้วตามสำนักงานเขต 50 เขต และศาลาว่าการ กทม. ทั้ง 2 แห่ง ยังไม่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากนัก เรายังต้องรณรงค์ขอความร่วมมือประชาชนทุกคน แยกขยะติดเชื้อหน้ากากอนามัยใช้แล้วนำไปทิ้งจุดทิ้งที่ตั้งถังสีส้ม หรือใส่ถุงมัดแยกทิ้งให้คนงานเก็บขนขยะมีความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน อย่างไรก็ดี ในภาพรวมจำนวนปริมาณขยะต่อวันในช่วงนี้ลดลง เนื่องจากการ ปิดกิจการตามประกาศของกรุงเทพมหานคร ทำให้ปริมาณขยะเปียกลดลง แต่เจ้าหน้าที่เก็บขนขยะยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ทุกวัน