Move on ด้วยกายและใจที่แข็งแรง By ดีเจอ้อย
เรื่องโดย : วีรวรรณ ปิ่นดี Team Content www.thaihealth.or.th
ถ้าพูดถึงการมีสุขภาพดี หลายคนอาจนึกถึงการออกกำลังกายหรือการกินอาหารสุขภาพใช่ไหม แต่จริง ๆ แล้ว การดูแลสุขภาพจิตใจก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเราไม่ใส่ใจสุขภาพใจ ร่างกายเราก็อาจอ่อนแอลงได้ เดือนนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการ “Move on” จากเรื่องร้าย ๆ เพื่อเคลียร์พลังลบออกจากจิตใจของเราให้โล่งสบาย
เคล็ดลับคนดังสุขภาพดีในเดือนนี้เราจะมาแชร์ทริกดี ๆ จาก พี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ดีเจกูรูด้านการให้คำปรึกษาในเรื่องของความรัก และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังเผชิญปัญหา จนสามารถทำให้ความรู้สึกและหัวใจของใครหลายคนที่เคยท้อแท้ สิ้นหวัง กลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้ง
แต่การเป็นผู้ฟังและให้คำปรึกษาปัญหาต่าง ๆ ของคนอื่นอยู่เป็นประจำ จะส่งผลกับสุขภาพจิตใจของพี่อ้อยบ้างไหมนะ แล้วเธอมีวิธี Move on แบบไหน เรามาฟังเคล็ดลับจากพี่อ้อยกัน
พี่อ้อย ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า การรับฟังปัญหาและให้คำปรึกษาคนอื่นนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธอเลย
พี่อ้อย เล่าให้ฟังว่า “พี่รับรู้ถึงปัญหาของคนอื่น แต่ไม่เคยเอาตัวเองไปอยู่ในปัญหานั้นด้วยนะ ในรายการวิทยุ มีคนโทรศัพท์เข้ามาเยอะมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตั้งใจฟังปัญหาของพวกเขา”
“นอกจากนั้น พี่ก็ต้องแคร์ผู้ฟังคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้โทรเข้ามาด้วย เราไม่สามารถจมอยู่กับปัญหาของใครคนใดคนหนึ่งได้นานเกินไป เมื่อวางสายจากคนนี้ ก็จะมีคนใหม่โทรเข้ามาเสมอ เราต้องเคลียร์เรื่องเก่าออกไป เพื่อให้โฟกัสกับสายใหม่ที่เข้ามาค่ะ”
นอกจากเรื่องการทำงานแล้ว สุขภาพใจก็เป็นเรื่องที่ต้องบริหารจัดการให้ดีเช่นกัน บางคนอาจกำลังเผชิญกับความเครียดและไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรดี เพื่อแฟน ๆ เราจึงได้ขอเคล็ดลับสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากพี่อ้อยมาฝากกันด้วย
พี่อ้อยมีคำพูดที่เธอมักบอกกับตัวเองเสมอ นั่นคือ “ยอมรับความจริงให้ได้”
เธอเล่าว่า “เมื่อความจริงเกิดขึ้น และปัญหาอยู่ตรงหน้าเราแล้ว เราแค่ต้องรับมือไปตามอารมณ์ของเราเอง ถ้าเสียใจก็ให้ร้องไห้ไปเลย ถ้าพร้อมสู้ก็เดินหน้าต่อไป แต่ถ้าพังอีกก็แค่กลับมาร้องไห้อีกครั้ง เมื่อหายแล้วก็ค่อยเดินต่อไปใหม่”
“โลกนี้สอนให้เราร้องไห้ แค่ต้องใช้ให้ถูกวิธี และที่สำคัญที่สุดคือ เวลา จะรักษาทุกอย่างเองเราอาจไม่รู้หรอกว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเคลื่อนตัวออกจากความเจ็บปวดนี้ แต่วันไหนที่เราตื่นขึ้นมาในทุกเช้า นั่นแสดงว่าเราได้ก้าวห่างออกจากอดีตอีกหนึ่งวันแล้ว”
“วันนี้ความทรงจำอาจจะยังอยู่ แต่เราก็ค่อย ๆ อยู่กับมันจนเจ็บปวดน้อยลง ซึ่งพี่อ้อยถือว่าเป็นการ Move on ได้แล้วเหมือนกันค่ะ”
นอกจากการดูแลจิตใจของตัวเองและคนอื่นแล้ว พี่อ้อยยังให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองอย่างสม่ำเสมอด้วย เธอมีประสบการณ์ตรงจากการอยู่กับคุณพ่อและคุณแม่ที่เจ็บป่วยบ่อย ๆ จึงรู้ดีว่าร่างกายของเรานั้นสำคัญที่สุด
พี่อ้อยเล่าให้ฟังว่า “สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือการพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สำหรับพี่แล้ว การออกกำลังกาย คือ ยาที่ดีที่สุดเลย แม้จะมีเวลาแค่ 10-15 นาที พี่ก็จะใช้เวลานั้นเต้นแอโรบิกให้เต็มที่ และดื่มน้ำเยอะ ๆ เป็นสิ่งที่ควรเริ่มตั้งแต่ตื่นนอนเลย”
“สุดท้ายที่สำคัญ พี่อยากบอกทุกคนให้หาเวลามาดูแลสุขภาพจิตใจของตัวเองอยู่เสมอด้วยนะ อย่ามัวแต่ดูแลสุขภาพกายและความเป็นอยู่อย่างเดียว ต้องดูแลความเป็นสุขด้วยค่ะ”
การสร้างสุขภาวะจิตใจที่เข้มแข็ง และสุขภาพกายที่แข็งแรง ให้สามารถฝ่าฟันเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายได้ เพียงแค่ลองปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด สสส. ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีปัญหาลุกขึ้นสู้ และดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุข