ทุกวันนี้มียาสระผมหรือแชมพูมากมายหลากหลายยี่ห้อและหลากหลายสูตร จนเลือกซื้อไม่ถูกกันเลยทีเดียว ใครๆก็อยากใช้ยี่ห้อที่ชอบหรืออยากใช้ที่มีกลิ่นหอมๆ แต่ในบางครั้งพอใช้แชมพูที่เราชอบ ก็เกิดมีอาการแปลกๆ เช่น มีอาการแสบหนังศีรษะ บางครั้งก็มีสิวขึ้นที่ไรผม หากมีอาการแบบนี้ต้องรีบเช็กด่วนเลยว่าเรานั้นแพ้ยาสระผมหรือเปล่า วันนี้เรามี 5 สัญญาณเตือน “แพ้ยาสระผม” มาให้ทุกคนได้รู้กัน
หากใครที่ใช้ยาสระผมแล้วรู้สึกแสบๆคันๆตรงหนังศีรษะตั้งแต่ครั้งแรกๆที่ใช้ ทั้งๆที่เราไม่ได้มีแผลบนหนังศีรษะ อาการแบบนี้เป็นอาการของคนแพ้แชมพู เพราะในแชมพูนั้นอาจมีสารเคมีบางชนิดที่ทำให้หนังศีรษะระคายเคืองจนอักเสบ และกลายเป็นรอยแดงตรงผิวบริเวณโดยรอบ บางคนอาจมีอาการแสบด้วย
นอกจากบริเวณหนังศีรษะแล้ว การมีผดผื่นหรือคันบริเวณอื่นๆตรงจุดที่โดนแชมพู เกิดจากแชมพูบางชนิดมีสาร SLS (สารลดแรงตึงผิว)และ พาราเบน (สารกันเสียในเครื่องสำอาง) ที่ไปทำลายความชุ่มชื้นและทำให้ระคายเคืองในจุดที่สัมผัสกับแชมพูโดยตรง
แชมพูที่เราใช้นั้นอาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวโดยตรง ซึ่งมักจะเกิดในบริเวณหน้าผาก ไรผม และขากรรไกร โดยเฉพาะสิวผดหรือสิวอุดตัน เพราะในแชมพูมีสารซิลิโคนผสมอยู่เพื่อเคลือบเส้นผมให้นุ่มลื่นแต่ในขณะเดียวกัน ซิลิโคนก็เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวอุดตัน ซึ่งเกิดขึ้นได้จากสารซิลิโคนในแชมพูสะสมกันและตกค้างตามรูขุมขน จนเกิดเป็นอาการแพ้แชมพูและเป็นสิวขึ้นมานั่นเอง
เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่เห็นได้ชัดเจน นอกจากจะมีสะเก็ดขาวๆ เป็นขุยร่วงลงมา ยังคันอีกด้วย รังแคนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น หนังศีรษะแห้งและอักเสบรวมถึงเชื้อรา ดังนั้นจึงต้องคอยสังเกตหากเปลี่ยนชนิดแชมพูว่ามีรังแคเกิดขึ้นหรือไม่ หากมีควรเลิกใช้ทันที
แชมพูเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงเลย นั่นเกิดจากสารซิลิโคนในแชมพูตกค้างบริเวณโคนผม ซึ่งจะอุดตันและทำให้ผมร่วง นอกจากนั้น ผมร่วงยังสามารถเกิดจากสาเหตุอื่นๆได้อีกด้วย เช่น แพ้อาหาร นอนดึก หรือพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นการสระผมตอนกลางคืน สระแล้วไม่เป่าผมให้แห้งหรือรวบผมตึงบ่อยๆ หากใครใช้แชมพูตัวไหนแล้วรู้สึกผมร่วงมากขึ้นหรือจากไม่เคยร่วงเลย แนะนำให้หยุดใช้ไปก่อน
เรามีวิธีแก้ง่ายๆให้ทุกคนกันด้วย หากพบว่ามีอาการแพ้ยาสระผม เบื้องต้นเราขอแนะนำให้ไซไลหยุดใช้แชมพูที่กำลังใช้อยู่ รอดูอาการและทำตามวิธีต่อไปนี้ได้เลย