วันเวลาที่ผ่านไป 15 ปี หากเปรียบกับชีวิตคน ก็เรียกว่ากำลังเข้าสู่ “วัยรุ่น” วัยที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และสามารถพัฒนาต่อยอดความสามารถในตัวเองได้เป็นอย่างดี

ตลอดระยะเวลาการทำงานที่ผ่านมา 15 ปี มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ริเริ่มการทำงานจากการรวมตัวของพ่อแม่ เพื่อร่วมผลักดันให้มีการปฏิรูปการศึกษา จากนั้นจึงพัฒนามาเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่มุ่งสร้างให้ครอบครัวไทยเข้มแข็ง ทั้งในระดับบุคคล ชุมชน และสังคม โดยมีภารกิจสำคัญคือ ส่งเสริมให้ “พ่อแม่” ชั้นกลาง ทำหน้าที่ของตนอย่างมีคุณค่า นอกจากนี้ ยังส่งเสริมสัมพันธภาพความเป็นครอบครัวไทยที่อบอุ่นและเข้มแข็งให้กลับมามีบทบาททางสังคม สืบทอดวัฒนธรรม และเกื้อกูลกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว ระหว่างครอบครัว รวมถึงสนับสนุนให้ผู้น้อยมีสัมมาคารวะต่อผู้อาวุโสด้วย
โดยที่ผ่านมา มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ได้ร่วมจัดตั้งเครือข่ายครอบครัวขึ้นในสังคมไทย เช่น เครือข่ายครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว (Single parent) เครือข่ายผู้ปกครองในโรงเรียน เครือข่ายครอบครัวทั่วไป ครอบครัวอาสา ฯลฯ เพื่อหวังคืนความอบอุ่นและร่วมสร้าง “เด็ก” ให้เติบโตขึ้นเป็นคนคุณภาพต่อไป
วันชัย บุญประชา กรรมการและเลขานุการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว แบ่งปันเรื่องราวของการจัดตั้งมูลนิธิว่า พื้นฐานของการมีมูลนิธิฯ ก็คือการทำให้ครอบครัวมีการรวมกลุ่มเพื่อดูแลกัน และถ้ามีโอกาสก็มาร่วมดูแลสังคมด้วย
“สิ่งสำคัญอยู่ที่วิธีคิด” วันชัย กล่าว พร้อมยกตัวอย่างการจัดตั้งเครือข่ายให้ฟังว่า เมื่อไม่นานมานี้มีการรวมกลุ่มกันของพ่อแม่วัยรุ่น เพื่อช่วยกันแก้ปัญหา และให้คำปรึกษาระหว่างกัน รวมถึงมีการรวมเครือข่ายผู้ปกครองขึ้นมาร่วมแก้ไขปัญหาการพนันในสังคมไทยด้วย
“ที่น่าดีใจก็คือ กลุ่มครอบครัวบางกลุ่มรวมตัวกันแล้วร่วมขับเคลื่อนประเด็นทางสังคมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เช่น กลุ่มครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ ซึ่งทำหน้าที่คล้ายมีเดียมอนิเตอร์ คอยดูแลสื่อที่ไม่ส่งผลดีต่อเด็กและครอบครัว จนนำไปสู่การแก้กฎหมาย และจัดระดับความเหมาะสมของรายการโทรทัศน์ไทย”
ผู้สนใจเข้าร่วมเป็นเครือข่ายฯ ควรทำอย่างไร กรรมการและเลขานุการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ให้คำตอบว่า สามารถเริ่มจากการเป็นเครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา เข้าไปร่วมแลกเปลี่ยน และช่วยเหลือการเรียนการสอนของคุณครูเพื่อดูแลลูกหลานของเราก่อน หากบางกลุ่มต้องการความรู้เฉพาะ อาทิ การมีบุตรพิการ ก็สามารถขอคำปรึกษาจากมูลนิธิฯ ได้
“จริงๆ แล้วสังคมไทยเอื้อต่อความเป็นครอบครัวสูง เพียงแต่มี “ปัจจัยภายนอก” สภาพแวดล้อม เข้ามาเป็นตัวกระตุ้นทำให้ครอบครัวอ่อนแอลง โดยประเด็นสำคัญเลยเห็นจะเป็นเรื่องของอาชีพการงาน ครอบครัวชนบทมีการย้ายถิ่น คนเป็นแม่ต้องไปทำโรงงาน ส่วนพ่อก็ต้องไปขี่มอเตอร์ไซค์ ลูกถูกทิ้งไว้ให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงดู สิ่งนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อสัมพันธภาพในครอบครัว ขณะที่ครอบครัวเมือง โดยมากมักจะให้เวลากับงาน มากกว่าชีวิตครอบครัว แม้หลายครอบครัวจะพยายามปรับให้สมดุล แต่ก็มีหลายครอบครัวที่ยังทำไม่ได้จนเกิดผลกระทบ” วันชัย ให้ความเห็น

สำหรับกลวิธีที่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น คนทำงานเพื่อครอบครัวคนนี้ให้ความเห็นว่า คือการแบ่งเวลาทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอะไร ก็เป็นสิ่งดีทั้งนั้น โดยในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ทางมูลนิธิฯ จึงจัดงานเดิน-วิ่งการกุศล เพื่อครอบครัวไทย ครั้งที่ 3 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ยิ่งวิ่ง…ยิ่งใกล้” Family network Run For Family “ Run Together… Be Closer ”
“การที่ครอบครัวจะไปเที่ยว หรือทำอะไรร่วมกันนั้นมีประโยชน์แน่ๆ แต่อีกกิจกรรมหนึ่งที่มีประโยชน์แน่นอน ก็คือการชวนกันมาออกกำลังกายด้วยกัน” วันชัยให้ความเห็น พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า ระยะหลังมานี้การออกกำลังกายกลายเป็นเรื่องปัจเจก แม่ไปโยคะ พ่อไปตีแบต ลูกไปเตะฟุตบอล กีฬาบางชนิดอาจไม่เหมาะสมกับเพศ หรือเป็นกิจกรรมที่มีเวลาไม่ตรงกัน แต่การเดิน-วิ่ง เราทุกคน สามารถทำร่วมกันได้
“ผมเชื่อว่า การชวนคนในครอบครัวมาร่วมกิจกรรมด้วยกัน จะทำให้ชีวิตครอบครัวมีความสุขขึ้น ในปีนี้ก็เลยรณรงค์ว่า มาออกกำลังกายด้วยกันเถอะ ยิ่งวิ่ง ยิ่งใกล้ ได้พูดคุยและใช้เวลาร่วมกัน ซึ่งในความเป็นครอบครัว ผมไม่อยากให้มองแค่ลูกหรือพ่อแม่ แต่อยากให้มองไปที่ผู้สูงอายุในบ้านด้วย คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย อยากให้ชวนพวกท่านมาทำกิจกรรมด้วยกัน” กรรมการและเลขานุการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องโดย : ชัชวรรณ ปัญญาพยัตจาติ Team Content www.thaihealth.or.th
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
หมายเหตุ ขอเชิญร่วมงานเดิน-วิ่งการกุศล เพื่อครอบครัวไทย ครั้งที่ 3 “ยิ่งวิ่ง…ยิ่งใกล้” Family network…Run For Family “ Run Together… Be Closer ” ในวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2557 ณ สวนจตุจักร (ซึ่งจะวิ่ง 3 สวน สวนจตุจักร สวนสมเด็จฯ และสวนรถไฟ) บัตรราคา 250 บาท สมัครพร้อมกัน 3 คน/ครั้ง คิดค่าสมัคร 700 บาท สนใจร่วมกิจกรรม สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว 0-2954-2346-7
แสดงความคิดเห็น