๑๐... ๙... ๘... ๗... ๖... ๕... ๔... ๓... ๒... ๑... สิ้นเสียงนับถอยหลัง เริ่มเข้าสู่วันใหม่แห่งปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ เสียงประทัด พลุไฟส่องสว่างบนฟ้าท่ามกลางแสงดาว เป็นสัญญาณแห่งความยินดีที่เริ่มต้นแห่งความสุข ภาพบรรยากาศการดื่มฉลองอย่างสนุกสนานตามสถานบันเทิง และแหล่งท่องเที่ยวเป็นภาพชินตาที่เราเห็นในทุกปี
แต่ทางเลือกแห่งการเริ่มต้นดีกับปีใหม่ ใช่เพียงจะมีแต่ทางเดิมๆ เพราะการเลือกสวดมนต์ข้ามปี ชำระจิตใจให้สงบ และตั้งมั่นทำดี นับเป็นจุดเริ่มอันเป็นมงคล โดยปีนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จับมือกับหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายสื่อมวลชน รวมถึงวัดต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมใจกันร่วมจัดงานสวดมนต์ข้ามปีอีกครั้งต่อเนื่องเป็นปีที่ ๒ เพื่อใช้เวลาทำสิ่งมงคล ประกอบกับในปี ๒๕๕๔ นี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่มีเหตุการณ์สำคัญ ๒ เหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน คือเป็นปีพุทธชยันตีครบ ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔
การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คนไทยทุกคนจะได้ร่วมกันเฉลิมฉลองปีพุทธชยันตี และยังถือเป็นการสวดมนต์เพื่อทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การสวดมนต์นับเป็นสิ่งที่เราชาวพุทธปฏิบัติเป็นกิจที่งดงามโดยพันโท วันชนะ สวัสดีหรือ ผู้พันเบิร์ดรองโฆษกกองทัพบก และนักแสดงนำภาพยนตร์เรื่องสมเด็จพระนเรศวรมหาราช บอกกล่าวถึงเรื่องอานิสงส์จากการสวดมนต์ไว้ว่า ตามปกติแล้วประชาชนทั่วไปมักคิดถึงหลักพุทธศาสนาเมื่อยามมีความทุกข์ แต่ตนอยากเสนอแนวคิดใหม่ที่เราสามารถคิดถึงพุทธศาสนาในยามที่เรามีความสุขได้ และสิ่งง่ายๆ คือการสวดมนต์ที่สามารถทำเองได้ทุกวัน และสิ่งที่ได้ อันดับแรกคือสมาธิที่จะมีเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันใจของเราก็จะควบคุมตัวเองได้ง่าย มีหลักการ มีเหตุผลมากขึ้น และยังเป็นแบบอย่างให้ลูกหลานปฏิบัติตามในสิ่งดีๆ
เมื่อพูดว่า "สวดมนต์" ผู้คนส่วนใหญ่มักนึกถึงสถานที่สงบเงียบ วัดวาอาราม หรือในห้องพระที่ไร้สิ่งรบกวน แต่ผู้พันเบิร์ดบอกว่า ความจริงการสวดมนต์นั้นเราสามารถทำได้ทุกที่ที่สะดวกและทำได้ทุกขณะที่มีสติ เช่น ในยามเดิน ออกกำลังกาย ก็สามารถทำได้ ดังนั้น หากจะร่วมสวดมนต์ข้ามปีในปีใหม่นี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปสวดที่วัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะทำอยู่ที่บ้านหรือสถานที่ที่สะดวกวันชก็สามารถทำได้ไม่ต่างกัน นะ"ผมอยากเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกคนมาร่วมสวดมนต์ข้ามปี
นอกเหนือจากการไปเที่ยวเตร่ หรือเคานท์ดาวน์วิธีแบบอื่น ซึ่งการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ปีนี้ขอให้เริ่มต้นด้วยการสวดมนต์และยังเป็นการเข้าถึงพระพุทธศาสนาได้ง่ายอีกด้วย เราสามารถทำที่ไหนก็ได้ และสามารถสวดได้ทุกขณะ และกระทำสิ่งต่างๆ ด้วย เช่น เดิน ออกกำลังกาย ก็สามารถทำได้ ดังนั้นการสวดมนต์ข้ามปีในปีใหม่ที่จะถึงนี้ก็ไม่ต้องไปสวดที่วัด สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยการชักชวนคนในครอบครัวมาร่วมกันสวดมนต์ข้ามปี"พันโท วันชนะกล่าว
ด้านนักแสดงสาวหน้าสวยขวัญใจประชาชนจากช่องหลากสี อีกหนึ่งคนที่เคยได้เข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีเมื่อปีที่แล้ว อย่าง แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ เล่าว่า เมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสไปสวดมนต์ข้ามปีในวัดที่จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มแรกก็ไม่มั่นใจว่าจะอดทนทำได้นานหรือไม่ แต่เมื่อได้ร่วมสวดมนต์แล้ว ทำให้เรามีจิตที่นิ่งและมีสมาธิมากขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่า บางครั้งการเริ่มต้นอาจจะค่อนข้างยาก แต่หากเริ่มด้วยการสวดจากบทที่ท่องได้ เปิดอ่านหนังสือตามก็ทำให้เรามีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นได้ไม่ยาก
"ปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสไปสวดมนต์ข้ามปี แรกๆ ก็คิดว่าเราจะมีความอดทนทำได้หรือไม่ ซึ่งเราก็รู้ว่าคงได้รับสิ่งดีๆ ตอบกลับมา ซึ่งขึ้นอยู่กับเราเองต่างหากที่จะทำได้มากน้อยแค่ไหน ปีที่แล้วก็ชวนครอบครัวและเขมเพื่อนๆ ไปสวดมนต์ข้ามปีที่วัดที่เชียงใหม่ เป็นความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง ที่เราได้อยู่กับครอบครัว เพียงแต่รู้สึกบรรยากาศเปลี่ยนไป มีคนเยอะแยะนิจมากมายมาสวดมนต์ มีหนังสือถืออยู่ในมือเหมือนคัมภีร์เล่มใหญ่มาก และได้รับพรจากเจ้าอาวาส แพนว่ามันก็เป็นสิริมงคลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีที่ดีอีกแบบหนึ่งเลยค่ะ" แพนเค้กกล่าว
แพนเค้ก ยังมีมุมมองถึงเด็กๆ และเยาวชนในปัจจุบันนี้ว่า วัยรุ่นและเยาวชนหันมาให้ความสนใจและให้ความสำคัญเรื่องของธรรมะมากขึ้น มีธรรมะที่สามารถเข้าใจได้มากขึ้น ยกตัวอย่างการสวดมนต์ข้ามปีก็มีการชักชวนหรือพูดถึงกันบ่อยมากขึ้น ดังนั้น เราน่าจะได้สืบต่อกันไป ขณะเดียวกันแม้จะมีเด็กๆ อีกกลุ่มหนึ่งที่อาจจะไปเฮฮาปาร์ตี้เคานท์ดาวน์กันก็คงไม่ผิดอะไร แต่ขอให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ความปลอดภัยและการดูแลตนเองน่าจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราน่าจะคำนึงถึงดีกว่า
สุดท้ายแพนเค้กได้กล่าวเชิญชวนชาวไทยทั่วประเทศไปร่วมสวดมนต์ไว้ว่า ถือโอกาสนี้ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ บอกบุญกับกิจกรรมดีๆ กับการสวดมนต์ข้ามปี ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยและเยาวชนที่อาจคิดโปรแกรมกันอยู่ว่าจะไปทีไหนดี เหนือ ใต้ ออก ตก หรือสนามหลวงหรือวัดใกล้บ้านคุณ รับรองว่าได้รับสิริมงคลกันถ้วนหน้า ไม่ว่าปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี แต่แพนเชื่อว่าอย่างน้อยเราน่าจะมีสมาธิ มีสติและสามารถคิดแก้ปัญหาทุกสิ่งให้ผ่านไปได้ด้วยดีได้
"สิ้นปีปีนี้ หากใครวางโปรแกรมท่องเที่ยวไว้รับวันหยุดยาวต่อเนื่องนี้แล้ว อย่าลืมในคืนวันที่ ๓๑ ธันวาคมปีนี้ มาร่วมนับถอยหลังไปกับอานิสงส์บุญกับสวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดีในครั้งนี้ด้วยนะคะ" นางเอกสาวกล่าวทิ้งท้าย
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
คุณคิดอย่างไรกับการนำเสนอข่าว/บทความนี้
แสดงความคิดเห็น