‘7วันอันตราย’ 4 วันตาย 218 เจ็บ 2,020 คน

‘ปภ.’ เผย ‘7 วันอันตราย’ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 4 วันยอดตายพุ่ง 218 ศพ เจ็บ 2,020 ราย สั่งตั้งด่านตรวจรับประชาชนเดินทางกลับ หวังลดอุบัติเหตุ

เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 56 เวลา 10.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวก่อนเป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ผ่านเทศกาลสงกรานต์มา 3 วันยังคงเน้นเรื่องกฎหมาย เพื่อให้ยอดสถิติด้านต่างๆลดลงตั้งแต่วันที่ 15-17 เมษายนนี้ เพราะรัฐบาลยังมีนโยบายให้อุบัติเหตุน้อยลง เพื่อให้ตัวเลขผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บลดลงไปด้วย โดยหลังจากที่ประชาชนเริ่มเดินทางกลับขอให้เตรียมร่างกายและยานพาหนะให้พร้อมด้วย ส่วนการณรงค์เมาไม่ขับยังคงเน้นอย่างต่อเนื่อง แต่สถิติการเสียชีวิตกลับยังไม่ลดลง อย่างไรก็ตาม จากนี้หากจังหวัดใดไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้ตามรัฐบาลตั้งเป้าไว้รัฐบาลก็จะมอบรางวัลให้เช่นกัน

นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 14 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการรณรงค์ “สงกรานต์เป็นสุข ทุกคนปลอดภัย ร่วมใจรักษาวัฒนธรรม” เกิดอุบัติเหตุ 451 ครั้ง (ปี 2555 เกิด 580 ครั้ง) ลดลง 129 ครั้ง ร้อยละ 22.24 ผู้เสียชีวิต 45 ราย (ปี 2555 เสียชีวิต 66 ราย) ลดลง 21 ราย ร้อยละ 31.82 ผู้บาดเจ็บ 494 คน (ปี 2555 บาดเจ็บ 620 คน) ลดลง 126 คน ร้อยละ 20.32 โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาแล้วขับ ร้อยละ 41.91 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 23.50

นายเสริมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 74.19 รถปิคอัพ ร้อยละ 15.40 พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 21.15 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 65.85 บนถนน อบต.และหมู่บ้าน ร้อยละ 38.80 ทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 34.81 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 35.25 ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 54.92 ขณะเดียวกันได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,347 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 68,761 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 716,161 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 120,856 ราย โดยมีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 37,073 ราย รองลงมา ไม่มีใบขับขี่ 34,593 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ 23 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร สุราษฎร์ธานี และเชียงราย 3 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ 22 คน

นายเสริมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนรวม 4 วัน ระหว่างวันที่ 11 – 14 เมษายน เกิดอุบัติเหตุรวม 1,897 ครั้ง (ปี 2555 เกิด 2,134 ครั้ง) ลดลง 237 ครั้ง ร้อยละ 11.11 ผู้เสียชีวิตรวม 218 ราย (ปี 2555 เสียชีวิต 210 ราย) เพิ่มขึ้น 8 ราย ร้อยละ 3.81 ผู้บาดเจ็บรวม 2,020 คน (ปี 2555 บาดเจ็บ 2,288 คน) ลดลง 268 คน ร้อยละ 11.71 จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือตายเป็นศูนย์ รวม 11 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ชัยภูมิ ตราด นนทบุรี ปัตตานี มหาสารคาม ภูเก็ต ยะลา ระนอง อ่างทอง และอำนาจเจริญ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 71 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี 11 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 73 คน

 นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนของวันที่ 14 เมษายน เมื่อเทียบกับวันเดียวกันของช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2555 พบว่า จำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บลดลง โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดยังคงเป็นการเมาแล้วขับ การขับรถเร็ว และขับรถโดยประมาท ซึ่งในวันนี้คาดว่าประชาชนบางส่วนจะเดินทางกลับ แต่บางส่วนยังคงเล่นน้ำสงกรานต์อยู่ในพื้นที่ จึงได้กำชับให้จังหวัดวางแนวทางลดอุบัติเหตุทางถนนให้เหมาะสมกับสถานการณ์อุบัติเหตุ สภาพการจราจร ช่วงเวลาในการเล่นน้ำสงกรานต์ เพื่อรองรับการเดินทางกลับและการเล่นน้ำสงกรานต์ของประชาชน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่ เน้นหนักการจัดตั้งจุดตรวจ จุดบริการทั้งเส้นทางสายหลัก เส้นทางสายรอง เส้นทางรอบพื้นที่เล่นน้ำ เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดกับผู้ขับขี่รถทุกประเภทที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งการขับรถเร็ว การดื่มแล้วขับ และการง่วงแล้วขับ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ รถตู้โดยสารต้องมีความพร้อมในการขับรถ และระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุใหญ่

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า  ฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้วางแผนการเดินทางกลับ โดยเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสอบรถให้อยู่ในสภาพปลอดภัย ศึกษาและเลือกใช้เส้นทางที่ปลอดภัย ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด กรณีขับรถทางไกล ให้จอดรถพักทุก 2 ชั่วโมง หรือทุกระยะ 150 กิโลเมตร บริเวณสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง หรือจุดบริการของหน่วยงานต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากนี้ จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าหลายพื้นที่ของประเทศมีฝนตกกระจาย โดยเฉพาะภาคใต้มีฝนตกหนาแน่น และฝนตกหนักถึงหนักมาก จึงขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ ไม่ขับรถเร็ว เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก

Shares:
QR Code :
QR Code