ที่มา: สยามรัฐ

แฟ้มภาพ

ร้อนหนักความร้อนที่สูงเกินกว่าร่างกายจะทนได้ อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้แนะประชาชนควรระวังและสังเกตุอาการดังกล่าวได้ 

นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย ชี้แนะอาการดังนี้

1.ผื่นผิวหนัง เกิดจากร่างกายขับเหงื่อออกมากจนเกิดการอักเสบของรูขุมขน ทำให้ระคายเคือง เป็นตุ่มแดง หรือผื่นที่หน้า คอ หน้าอกส่วนบน ใต้ราวนม ขาหนีบ แนะให้อาบน้ำ สวมชุดที่ระบายอากาศดี ทายา

2.บวมที่ข้อเท้า เกิดจากเส้นเลือดบริเวณผิวหนังขยายตัว ทำให้บวมที่ขา โดยเฉพาะข้อเท้า ให้นอนยกขาสูง

3.ตะคริวเกิดจากกล้ามเนื้อหดตัว-เกร็งเฉียบพลัน โดยเฉพาะขา แขน ท้อง ในผู้ทำกิจกรรมกลางแจ้งหนัก จนเสียน้ำ-เกลือแร่จำนวนมาก ให้ยืดกล้ามเนื้อที่เป็นตะคริว นวดเบาๆ 1-2 นาที สลับยืดกล้ามเนื้อ ดื่มเกลือแร่ชดเชย

4.เป็นลม เกิดจากร่างกายไม่อาจปรับตัวต่ออากาศที่ร้อนขึ้น โดยขับความร้อนออก เพิ่มไหลเวียนโลหิตไปที่ผิวหนังทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอชั่วขณะ

5.เพลียแดด เกิดจากสูญเสียน้ำหรือเกลือแร่จำนวนมากไปกับเหงื่อหลายชั่วโมง ยังคงมีเหงื่อออก อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้ กระหายน้ำมาก หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว แต่ยังมีสติ

ให้นอนยกขาสูง ใช้พัดลมเป่า วางถุงน้ำแข็งที่ซอกคอ รักแร้ ข้อพับ ขาหนีบ หากอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ให้นำส่งโรงพยาบาลทันที

6.โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก รุนแรงมาก เกิดเมื่ออยู่ในอากาศที่ร้อนจัด ผิวหนังจะแดง ร้อน เหงื่อไม่ออก สับสน หมดสติ หากไม่ได้ปฐมพยาบาลทันทีอาจเสียชีวิตในไม่กี่ชั่วโมง

วิธีช่วยเหลือ ให้หลบเข้าที่ร่ม-รถที่เปิดเครื่องปรับอากาศ -ห้องที่เย็น ถอดเสื้อผ้าให้เหลือเท่าที่จำเป็น ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัว พัดลมเป่า วางถุงใส่น้ำแข็งไว้ซอกคอ รักแร้ ข้อพับ ขาหนีบ และรีบส่งโรงพยาบาล