5 วิถีเที่ยวใหม่ สไตล์ ‘Low Carbon’
เมืองไทยจัดได้ว่ามีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ชาติใดในโลก ยิ่งปัจจุบันมีการเช็คอิน พร้อมรีวิวแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ที่ตนเองได้ไป แล้วนำมาแชร์ต่อในสื่อสังคมออนไลน์ให้คนทั่วไปได้รับรู้ด้วยแล้ว
ก็ยิ่งส่งผลทำให้แหล่งท่องเที่ยวบางแห่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม แต่สิ่งนี้กลับทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมตามมา ดังเช่นกรณีที่มีการแชร์ข่าวปัญหาขยะที่พบในทะเลทางภาคใต้
‘Co-creation เพราะธรรมชาติเป็นของทุกคน’
“การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต้องสร้างความสมดุลโดยผ่านการมีส่วนร่วมในชุมชน ซึ่งภาคประชาชน รัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ ต้องมีประสบการณ์ร่วมกัน หรือที่เรียกว่า Co-creation โดยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันตระหนัก ปฏิบัติ รับผิดชอบ และรับประโยชน์ไปด้วยกัน โดยให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตคนในท้องถิ่น ไปพร้อมๆ กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จึงจะเกิดการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” นายสุเทพ เกื้อสังข์ ผู้อำนวยการสำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ได้พูดไว้ในงาน เสวนา “สัมมาชีพสร้างเศรษฐกิจฐานราก : พัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน” ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการท่องเที่ยวท้องถิ่นของตนเอง
แล้วจะทำอย่างไร?…ได้เที่ยวแล้ว แถมยังอนุรักษ์ธรรมชาติไปด้วย
ทุกทริปที่มีการใช้บริการโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ในทุกครั้งที่มีการใช้ไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซหุงต้ม ฯลฯ หรือแม้แต่ทุกครั้งที่มีการทิ้งขยะเพิ่มมากขึ้น กิจกรรมที่ยกมาทั้งหมดนี้ ล้วนทำให้ปริมาณ 'ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์' ที่เกิดจากการท่องเที่ยวของเราเพิ่มสูงขึ้น
เพื่อช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์…ลองหันมาเป็นนักท่องเที่ยวในแบบ วิถีสไตล์ ‘Low Carbon’ โดยทำได้ง่ายๆ เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงทัศนคติในการท่องเที่ยว ไม่มุ่งเน้นไปที่ความหรูหราสะดวกสบายเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการท่องเที่ยวเพื่อแสวงหาความเรียบง่าย ความสงบของชุมชนท้องถิ่น ใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่รบกวนสิ่งแวดล้อม เป็นการเดินทางที่ใช้เงินไม่มาก จะสนุกแค่ไหน มาดูกัน…
1.ท่องเที่ยวอย่างไรไม่เร่งรีบ โดยหันมาเดินเท้า วิ่ง ปั่นจักรยานชมเมือง หรือ พายเรือ แทนที่จะขับรถยนต์ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนที่เราไปเยี่ยมเยียน และควรศึกษาวางแผนการเดินทางเพื่อจะได้เลือกเส้นทางที่ดีที่สุด
2.ลิ้มรสอาหารพื้นเมือง อาหารพื้นเมืองหลายเมนูมีรสชาติอร่อย เพราะวัตถุดิบมาจากท้องถิ่น ปลูกเองไร้สารเคมี แถมได้เป็นการส่งเสริมเพิ่มรายได้เกษตรกรในท้องถิ่นโดยตรงอีกด้วย
3.พักโรงแรมสีเขียว เป็นที่พัก หรือ โฮมสเตย์ ที่ใส่ใจและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากจะหลับสบายในแบบสโลว์ไลฟ์แล้ว ยังช่วยกันกระจายรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น และก่อนออกจากห้องพัก นักท่องเที่ยวควรช่วยกันถอดปลั๊ก เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี พัดลม สายชาร์ตแบตเตอรี่ เพื่อช่วยผู้ประกอบการท้องถิ่นประหยัดพลังงาน
4.มีจิตสำนึกและให้ความเคารพสถานที่ท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวที่ดีไม่ควรเพิ่มขยะให้ชุมชน มีจิตสำนึกต่อการรักษาสภาพแวดล้อม รวมถึงให้ความเคารพวัฒนธรรมของชุมชน และสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ
5.ออกไปเรียนรู้และสัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำความรู้จักกับชาวบ้านและวิถีชีวิตประจำวันของพวกเขา แล้วอาจต้องทึ่งกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะได้จากคนในท้องถิ่น และลองสร้างประสบการณ์ร่วมหาโอกาสเรียนรู้ทักษะงานฝีมือของชุมชนนั้น เพราะนอกจากจะได้งานฝีมือกลับบ้านแล้ว ยังได้สร้างมิตรภาพกับชาวบ้านอีกด้วย
จะเป็นนักท่องเที่ยว ใครๆ ก็เป็นกันได้ หากมีเงินและมีเวลา แต่จะเป็นนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ต้องเที่ยวแบบใส่ใจไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม เพราะทรัพยากรธรรมชาติเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน และที่สำคัญยังได้สุขภาวะที่ดีตามมาอีกด้วย…
เรื่องโดย เสาวลักษณ์ พิสิษฐ์ไพบูลย์ Team Content www.thaihealth.or.th