4 ข้อควรรู้ เมื่อต้องขับรถฝ่าหมอกควัน
ในการเดินทางท่องเที่ยว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ประมาทไม่ได้คือ การขับขี่รถยนต์ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีหมอกและควันไฟปกคลุม ซึ่งผู้ขับขี่รถยนต์สามารถขับขี่ด้วยความระมัดระวังได้ตามคำแนะนำ ดังนี้
- บริเวณหุบเขาเชิงดอย พื้นที่บนภูเขาสูง ทุ่งนาที่มีการเผาตอข้าว ที่หมอกลงจัดหรือมีควันไฟมาก ถ้าไม่จ เป็นต้องเดินทางให้หลีกเลี่ยงการขับขี่ในบริเวณดังกล่าว แต่หากจำเป็น ต้องขับขี่รถยนต์ ควรตรวจสอบสภาพรถ ไฟเลี้ยวไฟหน้ารถ ไฟท้ายรถ ก่อนเดินทาง
- ศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง เช่น ทางลาดชัน ทางโค้ง เมื่อขับรถเข้ากลุ่มหมอกหรือควันไฟ ต้องชะลอความเร็ว ก่อนถึงกลุ่มหมอกหรือควันไฟ ยึดแนวเส้นขอบถนนด้านซ้ายเป็นหลัก เพื่อไม่ให้ตกถนน หรือจะดูแนวเส้นกึ่งกลางถนนแล้วเยื้องไปทางซ้ายแทนก็ได้
- กรณีที่หมอกลงจัดมากหรือควันไฟหนาแน่นมากจนมองไม่เห็นเส้นทาง ควรหาสถานที่จอดรถ ที่ปลอดภัยเช่น ปั้มน้ำมัน หรือจุดพักรถข้างทาง ห้ามจอดไหล่ทางโดยเด็ดขาด เพราะเสี่ยงกับการถูกเฉี่ยวชนสูง รอจนกว่าหมอกจางหาย หรือควันไฟหมดแล้ว ค่อยเดินทางต่อ แต่ถ้าสามารถมองเห็นไฟท้ายของรถคันหน้าได้และไม่มีสถานที่จอดที่ปลอดภัย ให้ขับตาม รถคันหน้าช้าๆ โดยขับทิ้งช่วงห่างคันหน้าเพื่อให้มีระยะเบรคพอสมควร และให้ชิดขอบทางด้านซ้ายให้มากที่สุด
- เปิดไฟหรี่หรือไฟส่องสว่างเพื่อให้มีไฟแดงท้ายรถ และไฟตัดหมอกช่วย ถ้าไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าในระยะ 100 เมตร อย่าขับขี่ด้วยความเร็วสูงในระหว่างที่ต้องขับรถผ่านหมอกหรือควันไฟ อย่าแซงหรือเปลี่ยนช่องทางหรือหยุดรถกะทันหันอย่างเด็ดขาด และอย่าจอดรถยนต์ในบริเวณที่มีหมอกหากไม่จำเป็น
ที่มา : สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต