10 เหตุผล ที่นักวิ่งมุ่งสู่จอมบึงมาราธอน

         10 เหตุผล ที่นักวิ่งมุ่งสู่จอมบึงมาราธอน "ทุกกิโลเมตรของจอมบึงมาราธอน…มีแต่ความตื้นตันใจ"


/data/content/26919/cms/e_dfghkoy12345.jpg


          (1) ลองนึกถึงงานวิ่งในประเทศนี้ที่จัดต่อเนื่องมายาวนานจนถึง 30 ปี โดยมีความเข้มแข็งของคนในชุมชนจัดงานกันเองอย่างมีประสิทธิภาพ มีน้ำใส ใจจริงต่อผู้มาเยือน คณะผู้จัดที่ไม่เคยลดละความพยายามกับสโลแกน “งานวิ่งชาวบ้าน มาตรฐานสากล”


          (2) สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคม อิทธิพลความหนาวเย็นจากเทือกเขาตะนาวศรี แผ่ปกคลุมพื้นที่สวนผึ้ง – จอมบึง อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 17 – 18 องศาเซลเซียส แต่บางปีอาจจะลงไปถึง 15 องศาฯ ตอนย่ำรุ่ง เมื่อเหงื่อออกเรียกความอบอุ่นจากร่างกาย ปะทะกับอากาศเย็น ถือเป็นประสบการณ์ที่นักวิ่งต้องไปสัมผัสเอง เพราะความสุขนี้ห่างจาก กทม. แค่ 2 ชั่วโมง 30 นาทีเศษ


           (3) คอร์สมาราธอนของสนามนี้เป็นทางเรียบไม่มีเนิน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นักวิ่งจะทำ New Personal Best ของตัวเองที่สนามนี้ และในวันแข่งขันยังถือเป็นวันปิดหมู่บ้าน ปิดการจราจร 90% หน่วยอาสาทำงานกันอย่างเข้มแข็งด้วย


 /data/content/26919/cms/e_ceghisux1279.jpg         (4) กองเชียร์หลายตำบล 20 หมู่บ้าน นักวิ่งมาราธอนที่วิ่งไปไกลที่สุดจะได้ผ่านกองเชียร์ประมาณ 20 จุด กองเชียร์ลูกเล็กเด็กแดงจะไม่หยุดเชียร์พี่ๆ นักวิ่ง เพราะนี่คือประเพณีที่พวกเขารอคอยมาทั้งปี ส่วนกองเชียร์ผู้ใหญ่ที่อยู่กำกับดูแลก็ล้วนเคยเติบโตมากับวิถีวิ่งทน แน่นอนว่านี่คือมนต์เสน่ห์ของกองเชียร์ขากรุ่นสู่รุ่นที่หาไม่ได้จากสนามไหนในประเทศนี้ ถึงกับมีชื่อเรียกว่า “จอมบึงโมเดล” สำหรับสนามอื่นๆ ที่จะนำไปใช้เป็นต้นแบบนั่นเอง


          (5) นักวิ่งคนสุดท้าย คือ นักวิ่งที่เป็นที่เฝ้ารอไม่ถูกลอยแพ คุณจะยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากแนวหน้า ที่นี่เป็นสนามที่ควรมาลงมาราธอนครั้งแรก เพราะอะไร เพราะคุณจะไม่มีวันหมดกำลังใจ เมื่อมองไปสองข้างทางยังไงล่ะ


/data/content/26919/cms/e_cdegiloqtx28.jpg          (6) อาจารย์ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ริเริ่มจัดงานวิ่งจอมบึงตั้งแต่ในวัยหนุ่ม ถึงแม้ปีนี้ท่านจะมีอายุเลข 7 นำหน้า เกษียนแล้วซึ่งงานราชการ แต่ท่านก็เคยกล่าวกับผมเป็นการส่วนตัวว่า “ผมจะไม่เกษียนจากวิถีชีวิตนักวิ่ง และไม่เกษียนจากจอมบึงมาราธอน” ปีนี้อาจารย์ณรงค์ตั้งใจวิ่งระยะฟูลมาราธอน 42.195 เพื่อป็นเกียรติแก่เพื่อนนักวิ่งที่ท่านศรัทธากำลังใจ น้ำตาแห่งความปิติแห่งคนกล้ารออยู่ที่เส้นชัย


          (7) มีนักวิ่งคนหนึ่งมาจากจังหวัดพิษณุโลกมาวิ่งตลอดไม่ขาด เขาเคยวิ่งจนเป็นแชมป์รุ่น 50 ปี รุ่น 55 ปี ไปจนถึงรุ่น 60 ปี ก็เป็นแชมป์ได้ถ้วยพระราชทานติดต่อกันมาหลายปี แต่ว่ามีอยู่ปีหนึ่งเขาประกาศเลิกวิ่งแข่งขันในจอมบึงมาราธอน ขอไปวิ่งเพื่อความสนุกสนานเพราะเขารู้ว่าเสียดายมากที่เขาตั้งหน้าตั้งตาวิ่งให้เร็วที่สุดเพียงเพื่อจะเอาชนะผู้แข่งขัน แต่เขาได้ละเลยบรรยากาศบนเส้นทาง กองเชียร์ น้ำใจของชาวบ้านที่ออกมาคอยต้อนรับ เขาเลยเปลี่ยนมาเป็นนักวิ่งที่หยุดรำวงกับกองเชียร์ หยุดดื่มน้ำชา กินข้ามต้มที่บ้านของกำนันและผู้ใหญ่บ้าน นี่คือภาพที่เกิดขึ้นที่จอมบึง


           (8) สนามนี้มีอนุสรณ์ทั้งป้ายหินสลักเส้นทางมาราธอนที่มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง และอนุสรณ์อห่งความทรงจำ เมื่อปู่เป็ง เพิงสา ชาวบ้านจอมบึงคนหนึ่งท่านมีอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำสวน มาหัดวิ่งตอนอายุ 70 ปีเศษ สาเหตุเพราะทุกปีมีขบวนวิ่งวิ่งผ่านหน้าบ้าน เกิดความประทับใจอยากเป็นหนึ่งในนั้น ปีถัดมาจึงชิมลางระยะ 10 กิโลเมตรแล้วประทับจิตฝังใจ ในวัย 80 ปีท่านลงมาราธอนแรกที่ถนนหน้าบ้านแห่งนี้ ปู่เป็งจบระยะมาราธอนที่บ้านเกิด 3 ครั้ง เวลาดีขึ้นทุกครั้ง นักวิ่งผู้เป็นปูชนียบุคคลแห่งชุมชน ทำสถิติฟูลมาราธอนที่จอมบึงไว้ 4 ชั่วโมง 41 นาที 51 วินาที ปู่เป็งยังวิ่งสืบต่อมาหลายปี ท่านเสียชีวิตในวัย 99 ปี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 มรดกที่ปู่ให้ไว้นั้น คือ ความคิดที่ว่า “จงมีศรัทธาต่อการวิ่ง เพราะนั่นจะทำให้ลูกหลานมีชีวิตที่พิเศษ”


 /data/content/26919/cms/e_dghknpsvw569.jpg         (9) ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย เป็นหนึ่งในขาประจำของรายการนี้ เปรียบไป คือ การเอาเรือเล็กออกจากฝั่ง หากอยากวิ่งเคียงข้างเขาเฉกเช่นผู้รักการวิ่ง เพื่อสัมผัสความเป็นกันเองที่ตูนมีต่อชาวบ้านและต่อเพื่อนนักวิ่ง นี่คืองานหนึ่งที่เจ้าตัวก็เฝ้ารอ


          (10) วันที่ 17-18 มกราคมนี้ เชิญมาสัมผัสกับบรรยากาศของงานวิ่ง วิถีชีวิตนักวิ่งทั่วไทยที่กางเต็นท์นอนรอปล่อยตัว แม่ครัวสิบชีวิตลงมือเข้าครัวปรุงอาหารกันตั้งแต่เที่ยงคืน เด็กนักเรียนประถมซักซ้อมร้องเพลงเชียร์ ทาแป้งหน้าขาว โต๊ะน้ำถูกลำเลียงวางตามจุดต่างๆ ตั้งแต่กลางดึกสงัด ทุกหัวใจต่างเฝ้ารอวินาทีที่แตรปล่อยตัวดัง เพราะนั่นหมายถึงความสุขที่ทรงจำครั้งใหม่ของงานวิ่งมาราธอนที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นตำนานของประเทศไทยได้เริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง


 


 


          ที่มา : นิตยสาร Thai Jogging โดยมนตรี บุญยศักดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code