ไอนาน-น้ำหนักลด รีบพบแพทย์

ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า


ไอนาน-น้ำหนักลด รีบพบแพทย์ thaihealth

    แฟ้มภาพ      


สธ.เร่งค้นหาผู้ป่วยวัณโรค ตั้งเป้าปี’62 ลดผู้ป่วยรายใหม่เหลือ 88คน/แสนประชากร แนะประชาชนสังเกตอาการถ้าไอเรื้อรังเกิน 2สัปดาห์ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร เหงื่อออกกลางคืน หรืออยู่ร่วมบ้านกับผู้ป่วยวัณโรค โดยเฉพาะเด็ก ให้ไปพบแพทย์ตรวจร่างกาย ชี้โรคนี้รักษาหายขาดได้ ถ้าพบตั้งแต่แรก และกินยาต่อเนื่อง


นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายค้นหาคัดกรอง ป้องกัน ดูแลรักษาและควบคุมวัณโรค เพื่อยุติปัญหาวัณโรคของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560-2561 คัดกรองค้นหาในกลุ่มเสี่ยงประมาณ 5 ล้านคน อาทิ ผู้ต้องขัง ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้สัมผัสร่วมบ้าน ผู้สูงอายุที่มีโรค ผู้ป่วยเบาหวาน แรงงานข้ามชาติ บุคลากรสาธารณสุข พบผู้ป่วยวัณโรค 22,784 ราย และส่งต่อป่วยเข้าระบบรักษา สำหรับในปี 2562 ตั้งเป้าหมายลดผู้ป่วยรายใหม่ให้เหลือ 88 คนต่อแสนประชากรในปี 2564 จากที่พบ 156 คนต่อแสนประชากรในปี 2560 


ปลัด สธ.กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนสังเกตอาการตนเองและคนในครอบครัว หากไอเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร เหงื่อออกกลางคืน หรืออยู่ร่วมบ้านกับผู้ป่วยวัณโรค โดยเฉพาะเด็ก ให้ไปรับการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หากป่วยจะได้รับการรักษา ซึ่งโรคนี้มียารักษาหายขาด ที่สำคัญจะได้ผลดีถ้ารับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก และต้องกินยาสม่ำเสมอติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน ร่วมกับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีโปรตีนและวิตามิน เพิ่มภูมิต้านทานร่างกาย


ด้านนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า วัณโรค เป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า ไมโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซิส (Mycobacterium tuberculosis) ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 เกิดที่ปอด สามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น เยื่อหุ้มสมอง ต่อมน้ำเหลือง กระดูก กลุ่มที่รับเชื้อได้ง่ายคือ เด็กจะรับเชื้อจากผู้ใหญ่ที่เป็นวัณโรคระยะแพร่เชื้อ โดยเชื้อจะออกมากับการไอ จาม ในห้องที่ทึบอับแสง เชื้อวัณโรคอาจมีชีวิตอยู่ได้ถึง 1 สัปดาห์ ถ้าเสมหะที่มีเชื้อลงสู่พื้นที่ไม่มีแสงแดด เชื้ออาจอยู่ในเสมหะแห้งได้นานถึง 6 เดือน แพร่กระจายอยู่ในอากาศและเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจ ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ จะทราบว่าติดเชื้อวัณโรคได้จากการตรวจเสมหะ โดยการทดสอบทูเบอร์คิวลินจะให้ผลบวก ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักเคยติดเชื้อตอนเป็นเด็ก


ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการของโรค ได้แก่ สัมผัสผู้ติดเชื้อทำให้ได้รับเชื้อเพิ่มขึ้น ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยเฉพาะการติดเชื้อ HIV ผู้ติดยาเสพติดและโรคขาดอาหาร โดยประเทศไทยฉีดวัคซีน BCG ให้เด็กทุกคนตั้งแต่แรกเกิดตามคำ แนะนำองค์การอนามัยโลก ซึ่งมีผลชัดเจนในการป้องกันวัณโรคชนิดรุนแรงแบบแพร่กระจาย และวัณโรคเยื่อหุ้มสมอง ทั้งนี้ สถานการณ์วัณโรคในประเทศไทย พบผู้ป่วย 108,000 รายต่อปี เสียชีวิต 12,000ราย

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ