ไม่ว่างหรือข้ออ้างของคนหมด(กำลัง)ใจ
เรื่องโดย สุรศักดิ์ อาภาสกุล Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลบางส่วนจาก คู่มือจุดสตาร์ท วิ่งสู่ชีวิตใหม่
ให้สัมภาษณ์โดย อาจารย์ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายจาก สสส. อดีตประธานสมาพันธ์ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพไทย และคุณอนันต์ทรัพย์ สุทธิบงกชมาศ
ภาพโดย นัฐพร ชุ่มลือ Team Content www.thaihealth.or.th
ไม่มีเวลา อายุมากแล้ว ออกกำลังกายไม่ไหว ผอมแล้วไม่ต้องออกกำลังกายก็ได้ คำพูดต่างๆที่เป็นข้ออ้างในการไม่อยากออกกำลังกาย เรารู้ว่าคุณก็เคยมีข้ออ้างเหล่านี้ !
ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลหรือข้ออ้างอะไรก็แล้วแต่ เชื่อว่าทุกคนรู้ดีว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์และเป็นการควบคุมน้ำหนักรวมทั้งให้มีสุขภาพที่ดี ซึ่งอันดับแรกต้องเอาชนะใจตนเองซึ่งเป็นเรื่องยากที่สุด แต่ถ้าก้าวผ่านมันไปได้ จะเป็นเรื่องราวที่ดีอย่างยิ่ง โดยการออกกำลังกายที่ง่าย แถมไม่ต้องใช้อุปกรณ์ และประหยัด เหมาะสมกับทุกเพศ ทุกวัย นั่นก็คือ “ การวิ่ง ” นั่นเอง
อาจารย์ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายจาก สสส. ที่ปรึกษาสมาพันธ์ชมรมเดิน – วิ่งเพื่อสุขภาพไทย กล่าวว่า การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งการวิ่งจะได้มิติสุขภาวะทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ กาย ใจ สังคม จิตและปัญญา ส่วนระยะทางในการวิ่งเพื่อสุขภาพที่เหมาะสม ควรวิ่งตั้งแต่ 3 กิโลเมตร หรือ 5 กิโลเมตร โดยการจะออกกำลังกายใดๆก็ตามต้องเริ่มต้นจากการอบอุ่นร่างกาย การยืดกล้ามเนื้อ ( warm up ) แล้วจึงค่อยออกกำลังกาย ( exercise ) เมื่อเสร็จแล้วจะต้องมีการยืดกล้ามเนื้อหลังวิ่ง ( cool down ) และไม่ควรหักโหมมากเกินไป ส่วนการการก้าวข้ามข้ออ้างต่างๆ ควรมีการตั้งเป้าหมายของตัวเอง หรือ ชักชวนเพื่อนๆหันมาออกกำลังกาย และเตือนตัวเองเสมอว่า สุขภาพที่ดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง
“ จากแต่ก่อนผมเคยมีน้ำหนักตัวถึง 107 กิโลกรัม เป็นคนกินอาหารไม่ตรงเวลา และดื่มเหล้าหนัก แต่ตอนนี้น้ำหนักอยู่ที่ 75 กิโลกรัม ” นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของ นายอนันต์ทรัพย์ สุทธิบงกชมาศ ผู้ที่หันมาวิ่งเพื่อให้ตนเองมีชีวิตใหม่ที่แข็งแรง เล่าให้ฟังถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้หันมาวิ่งออกกำลังกายว่า โดยส่วนตัวเป็นคนชอบเที่ยวแนวผจญภัยไปในสถานที่ต่างๆ ซึ่งเมื่อเวลาเดินทางขึ้นที่สูงจะมีอาการหน้ามืด รวมทั้งมีการอาการเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หันมาออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ
นายอนันต์ทรัพย์ เล่าต่อว่า เริ่มจากการที่มีเพื่อนชักชวนมาออกกำลังกาย และเริ่มลงแข่งวิ่งแบบจริงจังครั้งแรกที่สนาม CM 6 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในระยะทาง 20 กิโลเมตร เป็นสนามที่ท้าทายและจะต้องวิ่งให้ได้จนจบ จนสุดท้ายก็ทำได้สำเร็จ หลังจากนั้นเขาจึงหันมาออกกำลังกายและดูแลสุขภาพตัวเองแบบจริงจัง ตอนนี้เป็นระยะเวลา 8 เดือน ที่วิ่งแทบจะทุกวัน ซึ่งเมื่อทำเป็นประจำแล้วทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถท่องเที่ยว ผจญภัย ปืนเขาไปในทุกที่ที่ตั้งใจไว้ได้ ซึ่งปัจจุบันสามารถลงวิ่งที่ระยะทาง 20 กิโลเมตร ซึ่งนับเป็นความท้าทายและความภาคภูมิใจเล็กๆ ที่สามารถเอาชนะข้ออ้างต่างๆ ผ่านพ้นมาถึงจุดนี้ได้
“สุดท้ายผมเชื่อว่าทุกคนอยากมีสุขภาพที่ดีอยากให้ทุกคนหันมาก้าวข้ามข้ออ้างต่างๆและหันมาใส่ใจ ดูแลสุขภาพร่างกายกันเยอะๆ ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้เลย เพราะสุขภาพดีไม่มีขายอยากได้ต้องทำเองครับ” นายอนันต์ทรัพย์ กล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้มาออกกำลังทุกคนสามารถทำได้ ทีมเว็บไซต์ สสส. มีเคล็ดลับการเอาชนะข้ออ้างมาฝากกันโดยเริ่มจาก
1.ลองตื่นให้เร็วขึ้นสักนิด หลายคนที่รักสุขภาพจะยอมตื่นเร็วขึ้นวันละ 20 – 30 นาที เพื่อจะได้ออกกำลังกายเบาๆในตอนเช้า นักวิ่งมือใหม่อย่างเราก็ลองเข้านอนเร็วขึ้นอีกนิด ตื่นเช้าขึ้นอีกหน่อย
2.เปลี่ยนการวิ่งให้เป็นกิจกรรมของครอบครัว ลองเปลี่ยนกิจกรรมวันหยุดจากการนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้อง เป็นการออกวิ่งเบาๆพร้อมกับคนในครอบครัว นอกจากจะช่วยให้สุขภาพดีแล้วยังได้ความสัมพันธ์อันดีต่อครอบครัวอีกด้วย
3.ลองตัดกิจกรรมที่ไม่จำเป็นออกไป เราอาจจะไม่รู้ตัวว่าในชีวิตประจำวันของเรามีกิจกรรมที่ไม่จำเป็นอยู่มากมาย เช่น การดูโทรทัศน์ การนั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ หากเราสามารถตัดหรือลดเวลาที่ทำกิจกรรมเหล่านี้ลง
4.อย่าตั้งเป้าหมายไว้สูง สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นวิ่ง ไม่ควรตั้งเป้าหมายไว้สูงนัก อาจจะเริ่มแค่วันละ 15 – 20 นาที แล้วค่อยๆตั้งเป้าหมายใหม่ และเขยิบไปเรื่อยๆ
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิก ไม่ว่าง หรือข้ออ้างของคนหมด (กำลัง) ใจ ได้ที่ http://llln.me/GlMZpn3
ทั้งนี้ การก้าวข้ามข้ออ้างพร้อมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและหันมาออกกำลังกาย ทุกคนสามารถทำได้โดยเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอแค่มีกำลังใจ มีความตั้งใจ เพราะการออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องยาก ทางทีมเว็บไซต์ สสส. ขอเป็นกำลังใจและสนับสนุนให้ทุกกลุ่มวัยหันมาออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่สม่ำเสมอเพื่อช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
เช่นเดียวกับกิจกรรม Thaihealth Day Run 2019 วิ่งสู่ชีวิตใหม่ ที่เป็นกิจกรรมที่ทาง สสส. ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน – วิ่งเพื่อสุขภาพไทย และภาคีเครือข่าย ที่ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยในปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เพื่อเป็นการรณรงค์ให้คนไทยมีสุขภาพดี และสร้างนักวิ่งหน้าใหม่ ซึ่งการวิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด ทาง สสส.ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการเตรียมร่างกาย ฝึกซ้อม และก้าวผ่านข้ออ้างต่างๆ ไปได้สำเร็จนะคะ