ไตร ลาสแดง ผู้นำพันธ์แท้ ทำงานด้วยสูตร ใจเย็น รอยยิ้ม ลงมือทำและกำลังใจ

เน้นใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ย่อท้อต่อความลำบาก

 

ไตร ลาสแดง ผู้นำพันธ์แท้ ทำงานด้วยสูตร ใจเย็น รอยยิ้ม ลงมือทำและกำลังใจ 

ใครว่าในเมืองใหญ่เท่านั้นที่มีการออกแบบบ้านหรือวางแผนผังหมู่บ้าน มันไม่จริงหรอก!!! เพราะคนต่างจังหวัดก็มีความคิดเช่นนั้นเหมือนกัน อย่างหมู่บ้านโพนแดง อ.เมือง จ.สกลนคร ที่ถึงแม้จะเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลความเจริญ แต่ก็มีความคิดสร้างสรรค์ ในการสร้างบ้านและออกแบบหมู่บ้านได้อย่างงดงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ!!!

 

            ทุกตรอก ซอก ซอย สะอาดกว้างขวาง มีที่ทำกินที่อยู่อาศัยชัดเจน สองฝั่งถนนร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ แถมยังไม่มีการล้ำเส้นเข้ามาในพื้นที่สาธารณะอย่างในเมืองใหญ่อีกด้วย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร!!! มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน

 

            ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ จากความความคิดที่เป็นระบบระเบียบของอดีตผู้นำชุมชน อย่าง ไตร ลาสแดง ซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านที่ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนานถึง 26 ปี ถึงแม้ปัจจุบันลุงไตรจะยุติบทบาทการเป็นผู้ใหญ่บ้านมาเกือบ 10 ปีแล้ว และอายุก็ก้าวเข้าสู่เลข 7 แล้ว แต่ด้วยผลงาน นิสัยใจคอและที่สำคัญ 4 หลักการที่เขายึดถือในการใช้ชีวิตตลอดมา ทำให้ลุงไตรยังคงเป็นผู้นำในใจของลูกบ้านมาถึงปัจจุบันนี้

 

            หลักที่ลุงไตรยึดถือตลอดมานั้น นั่นคือ ความใจเย็น ลุงไตรเป็นคนใจเย็น เพราะได้รับการหล่อหลอมมาจากการใช้ชีวิตในโลกบรรพชิตมาตั้งแต่จบประถมศึกษาปีที่ 4 จนอายุ 26 ปี ผู้คนในหมู่บ้านไม่มีใครเคยได้ยินคำด่าว่าหลุดออกมาจากปากของลุงไตรเลยสักคน เพราะลุงไตรบอกว่า ตนเองเป็นคนดุด่าไม่เป็นและไม่คิดว่ามันเป็นประโยชน์ แต่อาวุธที่ลุงไตรใช้เป็นประจำในการคอยตักเตือนผู้อื่นคือ รอยยิ้ม และ คำพูดให้กำลังใจ แล้วแบบนี้จะไม่ให้ได้ใจชาวบ้านได้อย่างไร

 

            ความเป็นธรรม คือหลักต่อมาที่ลุงไตรยึดถือ และให้ความสำคัญสูงสุด และยังรวมไปถึงความสัตย์ด้วย ความเป็นธรรมนี้ลุงไตรมองว่ามันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เราต้องรู้จักฟังความรอบด้าน ไม่ด่วนตัดสินใจ

 

            หากเกิดข้อพิพาทระหว่างลูกบ้านก็ต้องสืบสาวราวเรื่องให้รู้ความเสียก่อน อย่ารีบตัดสิน ยิ่งคนที่เป็นผู้นำยิ่งต้องมีความรอบครอบมาก อีกทั้งต้องซื่อสัตย์ รู้จักเสียสละ ให้ความสำคัญกับส่วนร่วมก่อน แล้วผู้คนจะยอมรับ และยอมให้ความเชื่อถือเรา

 

            การลงมือทำ ก็เป็นสิ่งที่ลุงไตรไม่มองข้ามเช่นกัน การลงมือทำหรือการทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง เป็นกุศโลบายที่เรียกความร่วมมือจากชาวบ้านอย่างได้ผลมาทุกสมัย การจะลงมือทำนั้น ต้องอาศัยการเป็นผู้ใฝ่รู้ พัฒนาตนเองอยู่เสมอ และยอมรับความรู้ใหม่ๆ  เช่น เมื่อครั้งลุงไตรเป็นสามเณรอยู่นั้น มีโอกาสได้ไปต่างหมู่บ้าน ทำให้เห็นการจัดบ้านที่เป็นระเบียบ ลุงไตรก็จำและมาปรับใช้กับบ้านและชุมชนของตนเองต่อมา จนเป็นที่มาของความสวยงามของบ้านโพนแดงในปัจจุบันนี้ นั่นคือการลงมือทำ

 

            และหลักการสุดท้ายที่ลุงไตรยึดถือ คือ การใช้ชีวิตเรียบง่าย ทุกวันนี้ลุงไตรยึดอาชีพชาวนาที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย โดยจะไม่ทำนาเกินตัว จึงทำให้ลุงไตรไม่มีหนี้สิน  ลุงไตรยังได้แสดงความเป็นห่วงถึงชาวนาในสมัยนี้ว่า ไปกู้เงินมา แต่ไม่ได้นำไปใช้เกี่ยวกับการลงทุนทางการเกษตรเลยแม้แต่น้อย แต่กลับนำไปใช้ในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกแบบที่ไม่จำเป็น เช่น โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น แม้แต่พืช ผัก สวนครัวบางชนิดที่สามารถปลูกได้เองง่ายๆ เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ก็ยังซื้อ เอาสะดวกตัวเองเป็นที่ตั้ง ซึ่งลุงไตรถือว่าเป็น ความมักง่ายในการใช้ชีวิต มันจะนำมาแต่ความลำบากในท้ายที่สุด

 

            นอกจากนี้ครอบครัวของลุงไตรยังได้รับยกย่องให้เป็นแบบอย่างในการครองเรือนอีกด้วย เพราะลุงไตรอยู่กินกับภรรยาสุดที่รักมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปีแล้ว โดยที่ไม่เคยทะเลาะ หรือมีปากเสียงเลยแม้แต่น้อย กลับมีแต่ความสุขในชีวิตคู่มาโดยตลอด และลุงไตรยังเลี้ยงลูกอีก 6 คนให้เป็นคนดีของสังคมได้อย่างน่าชื่นชม ถึงแม้ลูกจะไม่ได้เรียนเก่งมากมายหรือมีตำแหน่งใหญ่โตแต่อย่างไร เพียงขอแค่เป็นคนดีของสังคม ลุงไตรก็พอใจ แล้วแบบนี้ชาวบ้านที่ไหนจะไม่ภูมิใจที่เคยมีผู้ใหญ่บ้านอย่างลุงไตร

 

            หลักการทั้งหมดที่ลุงไตรยึดถือนั้น เป็นหลักการที่ทำได้ง่ายๆ และก็ควรที่น่าจะเอาเป็นแบบอย่าง เพื่อชีวิตของคุณจะได้มีความสุขอย่างลุงไตร บ้าง!!!!

 

 

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย: ณัฐภัทร ตุ้มภู่ team content www.thaihealth.or.th

ข้อมูลจาก: จดหมายข่าวเพื่อนสร้างสุข

 

 

 

update23-09-51

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code