ไข้หวัดใหญ่ระบาด ภูมิแพ้-หอบหืด อันตราย

ที่มา : แนวหน้า


ไข้หวัดใหญ่ระบาด ภูมิแพ้-หอบหืด อันตราย   thaihealth


แฟ้มภาพ


ห่วงประชาชนช่วงฤดูหนาว รับมือไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก พบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นที่โคราช แนะนำฉีดวัคซีนป้องกัน ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารที่มีประโยชน์ เตือนเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง ป่วยภูมิแพ้- หอบหืด


นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า อากาศที่เย็นลงในช่วงหน้าหนาว มักจะ ส่งผลให้ร่างกายประชาชนปรับตัวไม่ทันจากภูมิคุ้มกันที่ลดลง ทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น ขณะที่เชื้อไวรัส บางชนิดก็สามารถมีชีวิตในสิ่งแวดล้อม และสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้นานขึ้นเช่นกัน อาทิ โรคไข้หวัดใหญ่, โรคปอดบวม, โรคมือเท้าปาก, โรคหัด และโรคอุจจาระร่วง โดยกรมควบคุมโรคคาดการณ์ว่าจะพบผู้ป่วยจาก 5 กลุ่มโรคในช่วงฤดูหนาวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สำหรับพื้นที่ จ.นครราชสีมา ปีนี้พบการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่หลายช่วงเวลา และมียอดผู้ป่วยสูง กว่าปีที่แล้ว โดยช่วงแรกจะระบาดในเดือนเมษายน-มิถุนายน ต่อมาพบการระบาดอีกในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคยังไม่สงบ ยังคงพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

นพ.นรินทร์รัชต์กล่าวต่อว่า แนวทางการป้องกันโรคที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรค และการ ดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง อยู่เสมอ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ดื่มน้ำอุ่นมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าหากเมื่อมีอาการไอ จาม หรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงมีการระบาดของโรค ขอให้ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเอาไว้ด้วย เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ระบาดออกไป หรือป้องกันไม่ให้สูดรับเชื้อโรคเข้ามาสู่ร่างกาย


นพ.นรินทร์รัชต์กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่เป็นโรคหอบหืด ยิ่งต้องระมัดระวังตัวสูง เพราะจะมีความเสี่ยงสูงติดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ และจะต้องไม่นอนตากน้ำค้าง อยู่ในที่ที่อบอุ่น ไม่จำเป็นอย่าเปิดพัดลม หรือเปิดแอร์เวลานอนตอนกลางคืน เพราะอาจทำให้อาการกำเริบได้


ขณะที่การแพร่ระบาดของโรค มักพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน พบมากในสถานที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่รวมกัน อย่างแออัด เช่น เรือนจำ สถานศึกษา เป็นต้น ซึ่งโรคจะระบาดติดต่อโดยการ หายใจ หรือสัมผัสละอองฝอยจาก การไอ จามของผู้ป่วยหรือจาก การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และเมื่อติดเชื้อแล้วจะทำให้มีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยตามตัว บางรายอาจมีอาการรุนแรงเกิดภาวะปอดบวมหรือสมองอักเสบได้


ส่วนกลุ่มอายุที่พบอัตราการป่วยสูงสุด คือ กลุ่มแรกเกิด ถึง 4 ปี รองลงมาคือ กลุ่ม 5-9 ปี และ 10-14 ปี ตามลำดับ แต่อัตราการเสียชีวิตพบได้ตั้งแต่อายุ 1-95 ปี และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ จะเป็นผู้สูงอายุ ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปและมีโรคประจำตัว ผู้ที่เป็นภูมิแพ้และหอบหืด ต้องระวังเป็นพิเศษ

Shares:
QR Code :
QR Code