โอลิมปิกส์ทอล์ค…สุขใจที่ได้วิ่ง
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ปิดฉากโอลิมปิก 2016 ไปร่วมเดือนแล้ว นักกีฬาไทยคว้าเหรียญทองมาให้คนไทยได้ชื่นมื่น แม้การแข่งขันกีฬารายการวิ่งมาราธอนจะไม่ได้เหรียญใด ๆ ติดมือมา แต่ทีมไทยแลนด์ได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันด้วย
โอกาสที่สองนักวิ่งปอดเหล็ก บุญถึง ศรีสังข์ และ ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ ตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 ได้มาแสดงความขอบคุณสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่เป็นส่วนหนึ่งในการให้การสนับสนุนในการแข่งขันวิ่งมาราธอนมาอย่างต่อเนื่อง ร่วมในกิจกรรมสุดพิเศษ "โอลิมปิกส์ทอล์ค" จากใจ Thai Health Day Run 2016 หรืองานวิ่งสู่ชีวิตใหม่ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 13 พ.ย. 2559 นี้ด้วย
นางณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ หรือ สายฝน เล่าว่า การไปโอลิมปิกครั้งนี้ได้อะไรหลาย ๆ อย่างกลับมาเยอะมาก ทั้งในแง่ของความรู้และประสบการณ์จากการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมร่างกาย การแข่งขัน สิ่งเหล่านี้สามารถเรียนรู้ได้จากเกมใหญ่ ๆ ถึงแม้จะไม่ได้เหรียญกลับมา แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องเกินฝันที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ เพราะตนเองอายุเยอะแล้วด้วยวัย 37 ปี จึงต้องขอบคุณ สสส. ที่เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนทำให้ได้เข้าร่วมรับใช้ชาติในครั้งนี้ อีกทั้งยังเป็นหน่วยงานที่ได้เข้ามาช่วยพัฒนา และเปิดโอกาสให้กับนักวิ่งทางไกล ได้มีเวทีที่จะใช้ความรู้ความสามารถถ่ายทอดให้กับเด็ก ๆ และกลุ่มของคนรักสุขภาพ
"กลุ่มนักวิ่งทางไกลทีมชาติได้มีโอกาสมาร่วมเป็นวิทยากรและเข้าร่วมประชุมกับ สสส. ทำให้เราได้มีโอกาสนำเสนอแนวคิดในการส่งเสริมสุขภาพ เพราะกีฬาได้ให้อะไรกับพวกเราเยอะ เราจึงอยากจะหยิบยื่นโอกาสดี ๆ ตรงนี้ ให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสในสังคมด้วย" สายฝน เล่า
นอกจากนี้ สายฝนยังได้พูดถึงกระแสการวิ่งที่มาแรงในช่วงนี้ว่า ชื่นใจที่ได้เห็นคนไทยตื่นตัวในการออกกำลังกาย เพราะแต่ก่อนคนจะมาออกกำลังกายถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก จะเห็นแต่กลุ่มที่เล่นกีฬาเพื่อความเป็นเลิศเพียงอย่างเดียว ไม่ค่อยมีกลุ่มออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ แต่ทุกวันนี้แตกต่างกันมาก หน่วยงานต่าง ๆ ได้เริ่มหันมาสนับสนุนกันมากขึ้น โดยเฉพาะ สสส.ที่ได้รณรงค์ในเรื่องของการวิ่ง และการออกกำลังกายมาโดยตลอด
สายฝนยังฝากบอกอีกว่า การที่คนออกมาเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย หากเราตั้งเป้าหมายสู่การเป็นเลิศเพียงอย่างเดียว ก็จะสร้างความกดดันให้กับตนเอง แต่ที่เมื่อใดเป้าหมายของเรา คือ ความสุข ที่เราได้มาออกกำลังกาย และได้มาเล่นกีฬา เราก็สามารถทำสิ่งนั้นได้ดียิ่งขึ้น ส่วนการพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศ หรือมืออาชีพนั้น ถือเป็นผลพลอยได้มากกว่า
อีกหนึ่งนักกีฬาปอดเหล็กตัวแทนประเทศไทย นายบุญถึง ศรีสังข์ บอกว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่สำหรับนักกีฬาที่ได้ไปแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ถึงแม้ว่าจะเสียดายที่ไม่สามารถทำลายสถิติประเทศไทยได้ แต่การผ่านเข้าเส้นชัยได้ถือว่าทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ ส่วนโอลิมปิกเกมส์ครั้งหน้าที่ประเทศญี่ปุ่น ปี ค.ศ. 2020 แม้ตนเองจะมีอายุ 40 ปี แต่ยังพร้อมรับใช้ชาติเหมือนเดิม และคิดว่า ยังไม่เลิกวิ่งอย่างแน่นอน
บุญถึงบอกว่า การวิ่งเหมือนทุกอย่างในชีวิตเรา เรามีความสุขที่ทำสิ่งนี้ ถึงแม้การวิ่งมาราธอนมันเหนื่อย มันต้องใช้ใจและร่างกายไปด้วยกัน แต่การเป็นนักกีฬาได้สอนอะไรหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นการไม่ยอมแพ้ การมุ่งมั่น การมีวินัย อย่างที่เรามีทุกวันนี้ก็ได้
จากการวิ่ง และต้องขอบคุณ สสส. ที่ได้ เข้ามาช่วยทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์และการสนับสนุนในการไปโอลิมปิกครั้งนี้ และยังเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง เพราะการมีสุขภาพดีก็จะส่งผลไปถึงการทำงาน หรือการพัฒนาประเทศต่อไปได้อีกหลายอย่าง
"เชื่อว่าทุกคนมีความวิเศษของตัวเอง อยู่ที่ว่าเราจะค้นหาเจอหรือไม่ เมื่อเราค้นหาตัวเองเจอแล้ว เราก็ทำตรงนั้นให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด แล้วก็วางเป้าหมายไปเป็นขั้นตอน เชื่อได้ว่าทุกคนสามารถไปถึงเป้าหมายนั้นได้" บุญถึงทิ้งท้าย