‘โรคความดันโลหิตสูง’ คร่าชีวิตก่อนวัยอันควร

/data/content/24284/cms/e_abchnsvx6789.jpg


          'ความดันโลหิตสูง'เพชฌฆาตเงียบ ตะลึงยอดผู้ป่วยพุ่ง 5 เท่า เตือนคนเป็นไม่รู้ตัว-ตายไว


          นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์เปิดเผยว่า โรคความดันโลหิตสูง คือภาวะที่มีระดับความดันโลหิตสูงเรื้อรัง ซึ่งค่าความดันปกติในปัจจุบันถือเอาค่าตัวบน ไม่เกิน 140 มิลลิเมตรปรอท และค่าตัวล่างไม่เกิน 90 มิลลิเมตรปรอท และมีคนจำนวนมากไม่ทราบว่าเป็น เนื่องจากไม่ปรากฏอาการในช่วงแรก เมื่อปล่อยนานไปโดยไม่รับการรักษาแรงดันในหลอดเลือดที่สูงจะไปทำลายผนังหลอดเลือดและอวัยวะที่สำคัญหลายระบบในร่างกายเป็นเหตุให้เกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหัวใจ และโรคไตเรียกว่าเพชฌฆาตเงียบซึ่งโรคความดันโลหิตสูงเป็น1ในสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร


          จากสถิติขององค์การอนามัยโลก รายงานว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมากถึงพันล้านคนโดยผู้ใหญ่ทั่วโลก1ใน 3 คนมีภาวะความดันโลหิตสูง และคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีผู้ป่วยทั่วโลกสูงถึง 1.56 พันล้านคน และข้อมูลของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขพบว่าไทยมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเปรียบเทียบปี 2544 พบผู้ป่วย 156,442 รายและปี 2555 พบผู้ป่วย 1,009,385 ราย ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีอัตราเพิ่มขึ้นสูงถึง 5 เท่า


          ดังนั้น จากความรุนแรงดังกล่าวสมาพันธ์ความดันโลหิตสูงโลก จึงได้กำหนดให้วันที่ 17 พ.ค. ของทุกปีเป็นวันความดันโลหิตสูงโลก ซึ่งปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคได้แก่ พฤติกรรมการใช้ชีวิตโดยเฉพาะการบริโภคอาหารเค็ม รับประทานผักและผลไม้น้อยอ้วน ขาดการออกกำลังกายดื่มแอลกอฮอล์มาก สูบบุหรี่ และมีภาวะเครียดรวมทั้งอายุที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นได้


          ซึ่งวิธีปฏิบัติตนเพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันโรค คือ ลดบริโภคเกลือหรืออาหารที่มีรสเค็ม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ที่หวานน้อยธัญพืชแทนของว่าง ขนมกรุบกรอบ ลดอาหารที่ผ่านกระบวนการ อาหารหมักดอง อาหารสำเร็จรูป อาหารมีไขมันและน้ำตาลสูง ที่สำคัญต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์


 


 


          ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ


          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code