โพนพิสัยชวนชมบั้งไฟพญานาคปลอดเหล้า

 

 

เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดหนองคาย ร่วมกับชาวอำเภอโพนพิสัย รณรงค์ประชาชนและนักท่องเที่ยวชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคปลอดเหล้า ดึงวัฒนธรรมดั้งเดิมกลับสู่ท้องถิ่น ที่วัดไทย ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้มีการแถลงข่าวโครงการปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคปลอดเหล้า โดย นายพัฒนธรณ์ กีรติรัฐวัฒน์ นายอำเภอโพนพิสัย, นายพิทักษ์ ศรีตะบุตร อดีต ส.ว.หนองคาย, นายประญัติ เกรัมย์ ผู้แทนจาก สสส., นายสลัด พิสัยพันธ์ ปราชญ์ชาวบ้าน และพระอธิการบุญกว้าง ประภัสโร เจ้าอาวาสวัดไทย ร่วมกันแถลงข่าว เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา

      

            เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดหนองคาย ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. และชาวอำเภอโพนพิสัย ริเริ่มจัดโครงการนี้ขึ้น เพื่อลดปัญหาในเรื่องอบายมุขต่างๆ ลดการทะเลาะวิวาทในหมู่ประชาชน กลุ่มเยาวชน และลดอุบัติเหตุจากการขับขี่รถทุกชนิดที่มีสาเหตุจากการเมาแล้วขับ ซึ่งในช่วงเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค มักจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมบั้งไฟพญานาค และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดปัญหาดังกล่าวตามมา

      

            โดยแต่เดิมนั้นชาวอำเภอโพนพิสัย ยึดแบบแผนประเพณีดั้งเดิมในช่วงวันออกพรรษาที่เป็นงานบุญ จะงดการดื่มเหล้า ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป มีสิ่งเร้ามากขึ้น การจัดงานมีมหรสพ การแสดงต่างๆ กระตุ้นความสนใจของประชาชนมากขึ้นจึงหันมาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งที่เป็นงานบุญสำคัญ

      

            ดังนั้น ในปีนี้ชาวอำเภอโพนพิสัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องการรณรงค์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว งดเว้น หรือลดละการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงงานออกพรรษาบั้งไฟพญานาค ซึ่งหากสามารถต่อยอดไปจนถึงการเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตลอดชีวิต ก็จะเป็นการรณรงค์ที่ประสบความสำเร็จ

      

            ในช่วงวันที่ 23-24 ต.ค.นี้ เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดหนองคายและชาวอำเภอโพนพิสัย จะร่วมกันรณรงค์ด้วยการเดินขบวนรณรงค์ จัดแต่งขบวนแห่ ขบวนแฟนซีงดเหล้า ไปตามถนนเขตเทศบาลตำบลจุมพล จัดสาธิตการทำน้ำผลไม้ทางเลือกไร้แอลกอฮอล์ให้แก่กลุ่มเยาวชนในชุมชน

      

            รวมทั้ง การจัดไหลเรือไฟรณรงค์ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคปลอดเหล้า ในขบวนไหลเรือไฟของเทศกาลวันออกพรรษา ซึ่งมี 15 ชุมชน ในเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัยร่วมกันจัดตกแต่งเรือไฟอย่างสวยงาม เพื่อทำการรณรงค์อีกทางหนึ่งด้วย

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ

 

 

update : 19-10-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน