“โนโรไวรัส” ระบาดทำเด็กท้องเสีย
ที่มา : เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
แฟ้มภาพ
ผู้เชี่ยวชาญไวรัส ชี้ “โนโรไวรัส” ระบาดหนักตาม ร.ร. ทำเด็กท้องเสีย เผย น้ำยาฆ่าเชื้อ – แอลกอฮอล์ ฆ่าเชื้อไม่ได้ผล แนะล้างมือด้วยน้ำและสบู่นานๆ ให้ไวรัสเจือจาง พบเป็นโรคยอดฮิตส่งต่อในกลุ่มไลน์
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปี 2559 โนโรไวรัสมีการระบาดหนัก โดยเฉพาะในโรงเรียนต่างๆ พบผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นในเด็กอนุบาล หรือ เด็กโตนักเรียนระดับประถม และ มัธยม โดยไวรัสโนโรทำให้เกิดท้องเสียได้ทุกอายุ ขณะที่ไวรัสโรตาจะพบในเด็กเล็ก
ผู้ติดเชื้อโนโรไวรัสจะมีอาการ อาเจียน ไข้ไม่สูงมาก ปวดท้อง ท้องเสีย แต่สามารถหายได้เอง ในรายขาดน้ำต้องให้น้ำเกลือ หรือนอนโรงพยาบาล อาการจะเป็นประมารณ 2 – 3 วัน คาดการณ์มีผู้ป่วยทั่วโลกปีละกว่า 250 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 2 แสนคน
“โนโรไวรัสมีความคงทนในสิ่งแวดล้อมมาก น้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ ที่ใช้อยู่ รวมทั้งแอลกอฮอล์ไม่สามารถที่จะฆ่าเชื้อได้ ในทางปฏิบัติ สารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อได้ จะอยู่ในจำพวก ฟอร์มาลิน กลูตารอลดีไฮด์ และสารประกอบจำพวกคลอรีน เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรด์ (2%) คลอรอกซ์ และ ไฮเตอร์ อย่างไรก็ตามสารดังกล่าวจะมีกลิ่นเหม็นมากจึงใช้ยาก
นอกจากใช้ล้างห้องน้ำในทางปฏิบัติจริงๆ จะใช้หลักการทำความสะอาด ด้วยวิธีใช้น้ำและสบู่ล้างมือ ทำความสะอาดให้มากที่สุด โดยใช้น้ำชะล้าง เพื่อทำให้ไวรัสเจือจางไปให้มากที่สุด และทำความสะอาดเครื่องใช้ด้วยหลักการเดียวกัน” ศ.นพ.ยง กล่าว
ศ.นพ.ยง กล่าวอีกว่า โนโรไวรัส ไม่ใช่ไวรัสใหม่ เดิมชื่อ นอร์วอร์ก ตามชื่อเมืองที่พบครั้งแรกใน อเมริกา ศูนย์ไวรัสฯได้ทำการตรวจทางชีวโมเลกุล มากว่า 10 ปี แล้ว ไวรัสนี้มีระยะฟักตัวสั้น 12 – 48 ชั่วโมง ในประเทศไทยในอดีตไม่ค่อยเห็นการระบาดหมู่มาก หรืออาจจะไม่ได้ตรวจ จนเมื่อ 3 ปีที่แล้วมีการระบาดในสถานเลี้ยงเด็ก จึงเห็นการป่วยจากไวรัสนี้ชัดขึ้น และมีการระบาดในโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนดัง และโรงเรียนนานาชาติ เพราะเมื่อป่วยพ่อแม่จะพาไปตรวจโรงพยาบาลที่สามารถตรวจเชื้อได้ จึงรู้ว่าเป็นโนโรไวรัส
ขณะนี้มีการส่งต่อเรื่องการป่วยจากโนโรไวรัสทางสื่อสังคมออนไลน์อย่างมาก จึงเป็นโรคฮิต หรือโรคในไลน์ โรคหนึ่งสิ่งที่ควรตระหนัก คือ ไวรัสไม่มีเปลือกหุ้ม ยาฆ่าเชื้อ จึงยากในการทำลาย ล้างมือด้วยสบู่มากๆ และล้างให้นาน ในเด็กสอนล้างมือให้นานพอ โดยล้างมือไป ให้ร้องเพลง ให้ได้ 1 จบ เช่น ล้างมือ พร้อมร้องเพลง ช้าง ช้าง ช้าง จนจบ จะได้มั่นใจว่าล้างได้นานพอ และสะอาดพอ