โทษน้ำอัดลมทำสถิติโรคเกาต์พุ่ง


เผยดื่มทุกวัน 2 แก้วขึ้นไปเสี่ยงสูงกว่าปกติถึง 85 %


สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าผลการศึกษาล่าสุดระบุว่าเครื่องดื่มจำพวกน้ำหวานน้ำอัดลม หรือซอฟท์ดริ้งทั้งหลายน่าจะเป็นสาเหตุหลักของสถิติผู้ป่วยโรคเกาต์ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ให้เกิดความเจ็บปวดทรมานบริเวณข้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีมานี้


ทั้งนี้การวิจัยนี้ระบุด้วยว่าการดื่มเครื่องดื่มประเภทน้ำหวานน้ำอัดลมเป็นประจำตั้งแต่ 2 แก้วขึ้นไปต่อวันทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคเกาต์ที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติถึง 85% เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ดื่มน้อยกว่า 1 แก้วต่อเดือน


ทั้งนี้มีการอ้างอิงถึงสถิติผู้ป่วยโรคเกาต์ในประเทศสหรัฐว่าในช่วงแค่ 2 ทศวรรษที่ผ่านมานี้เองปรากฏว่ามีจำนวนผู้ป่วยโรคเกาต์เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเดิมถึง 2 เท่าตัว และการวิจัยนี้ก็แสดงให้เห็นว่าน้ำตาลฟรุ๊คโตสในเครื่องดื่มประเภทน้ำหวานน้ำอัดลมน่าจะเป็นตัวการสำคัญของโรคดังกล่าว


ผลการวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการด้านการแพทย์ บริติช เมดิคัล เจอร์นัล และหลังจากมีการตีพิมพ์ผลการวิจัยนี้ออกมาผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเกาต์ในประเทศอังกฤษก็ได้กล่าวเตือนคนไข้ที่เป็นโรคนี้อยู่แล้วว่าควรจะต้องลดปริมาณการดื่มน้ำหวานน้ำอัดลมของตัวเองลงเสีย


ส่วนสถิติผู้ป่วยโรคเกาต์ในประเทศอังกฤษนั้นผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีอยู่ประมาณ 1.5% ของประชากรทั้งประเทศ และเป็นตัวเลขที่โตขึ้นเรื่อยๆ ตลอดมาในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และสำหรับอาการของโรคเกาต์นั้นมักจะเป็นอาการปวด บวมที่ข้อ และมักจะเกิดขึ้นบริเวณข้อแขนหรือข้อขาส่วนล่าง ทั้งนี้อาการของโรคจะกำเริบขึ้นเมื่อมีกรดยูริกจากเลือดไหลเข้าไปที่บริเวณข้อกระดูก


ด้านนักวิจัยประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดาที่ร่วมกันทำการศึกวิเคราะห์สาเหตุของการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยโรคเกาต์ในประเทศกล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของสถิติโรคนี้นั้นสอดคล้องกันกับการเพิ่มขึ้นของสถิติการบริโภคเครื่องดื่มประเภทน้ำหวานน้ำอัดลมที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน


อีกทั้งมีการวิจัยหนึ่งซึ่งออกมาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าน้ำตาลฟรุ๊คโตสเป็นตัวทำให้ระดับของกรดยูริกในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้น ส่วนการวิจัยล่าสุดนี้เป็นการศึกษาติดตามผลเป็นเวลายาวนานถึง 12 ปีด้วยกัน และเป็นการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างผู้ชายทั้งสิ้น 46,000 คนอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ทั้งหมดไม่เคยมีประวัติการเป็นโรคเกาต์มาก่อน


นักวิจัยใช้แบบสอบถามเพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มของกลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมการวิจัย ซึ่งหลังการวิจัยพบว่ามีคนจำนวน 755 คนถูกแพทย์วินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคเกาต์ ทั้งนี้พบว่าคนที่ดื่มเครื่องดื่มพวกน้ำหวานน้ำอัดลมตั้งแต่ 5 ถึง 6 แก้วขึ้นไปต่อสัปดาห์มีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้สูงกว่าคนที่ไม่ดื่มอย่างมีนัยสำคัญ


ความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มน้ำหวานน้ำอัดลมกับความเสี่ยงในการเป็นโรคเกาต์ที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งพบในการวิจัยนี้มีความเป็นอิสระจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ของโรค เป็นต้นว่า ดัชนีมวลกาย อายุ ความดันโลหิตสูง และการดื่มแอลกอฮอล์


 


 




ที่มา : สำนักข่าวต่างประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

ภาพประกอบ :
www.thaihealth.or.th




update 04-02-51

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ