“โทร.ไม่ขับ”เริ่มจับจริงหลัง20พ.ค.
ชี้ โทร.เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกติ ถึง 4 เท่า
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมกรณีบังคับใช้กฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับขี่ หรือโทร.ไม่ขับ ว่า ตามที่ได้มีการแก้ไขพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2551 มาตรา 43 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 8 พ.ค.นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเรียนย้ำว่ากฎหมายดังกล่าวบัญญัติขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชน เพราะจากการวิจัยในหลายประเทศพบว่า การใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ยานพาหนะ มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกติ ถึง 4 เท่า แต่หากบังคับใช้เลยประชาชนก็จะรู้สึกไม่สะดวกสบายเช่นเดิม จึงมีการหารือกับทางพล.ต.ท.ชาตรี สุนทรศร ผู้ช่วยผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบด้านการจราจร ก็มีความเห็นตรงกันว่า การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวต้องเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยตั้งแต่วันที่ 8-19 พ.ค. หากพบว่ามีการฝ่าฝืนการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ก็จะใช้วิธีการว่ากล่าวตักเตือนผู้ขับขี่ไปก่อน โดยยังไม่ออกใบสั่งให้ไปชำระค่าปรับที่สถานีตำรวจ
พล.ต.ท.วัชรพลกล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.ไปแล้ว ยังพบว่ามีการฝ่าฝืนใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่อยู่ แม้กระทั่งรถติดไฟแดง แล้วสนทนาทางโทรศัพท์ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย หากจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ก็ต้องจอดรถบริเวณไหล่ทาง หากฝ่าฝืนก็จะดำเนินการอย่างจริงจัง และเข้มงวดกวดขันในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะทำการออกใบสั่งให้ไปชำระค่าปรับที่สถานีตำรวจ ตามการใช้อำนาจตามกฎหมายที่มีอยู่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 400 บาท ถึง 1,000 บาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
update 02-05-51