โค้งสุดท้ายค่าย สสส.อ่างทอง
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามกีฬา
ภาพประกอบจากเว็บไซต์ siamsport
วันที่ 4 สุดสดใสและสดชื่นฝนไม่ตกแดดไม่แรงช่างเหมาะยิ่งนักที่จะมาออกกำลังกายยามเช้าเพื่อรับโอโซนและวิตามิน อี ซึ่งชาวค่ายก็ตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่ทำกิจวัตรประจำวันเสร็จแล้วก็มารวมตัวกันเพื่อเตรียมออกกำลังกาย
ในวันนี้ทางค่ายได้รับเกียรติจากสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตอ่างทอง ให้เข้าเยี่ยมชมห้องวิทยาศาสตร์การกีฬาและห้องฟิตเนสเพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ดีๆ ให้แก่น้องๆ เนื่องจากยุคสมัยนี้วงการกีฬาของไทยเติบโตได้ส่วนหนึ่งก็มาจากวิทยาศาสตร์การกีฬาที่อยู่เบื้องหลัง
การเข้าไปเยี่ยมชมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก "อำนวย เผยศิริ" เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์การกีฬา สพล.อ่างทอง ที่มาเป็นวิทยากรรับเชิญสุดพิเศษรวมไปถึงการแนะนำวิธีการออกกำลังกายในด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาแบบเอ็กซ์คลูซีฟเลยทีเดียว แต่ไฮไลต์ที่น้องๆ สนใจมากที่สุดคือการเล่นอุปกรณ์ฟิตเนส ซึ่งทาง "พี่อำนวย" ก็แนะนำอุปกรณ์พื้นฐานให้กับน้องๆ 5 ชิ้น และทางค่าย สสส.ก็ต้องขอขอบคุณทางสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตอ่างทองอีกครั้งที่อนุเคราะห์สถานที่และยังเปิดห้องวิทยาศสตร์การกีฬาให้เยี่ยมชมในครั้งนี้
จากนั้นก็ถึงเวลาแห่งการรอคอยของน้องๆ ที่จะได้เอาทักษะกีฬาที่ได้เรียนมาตลอดทั้ง 3 วันที่ผ่านมามาใช้จริงๆ บ้างกับกิจกรรม "กีฬาเชื่อมสัมพันธ์" ซึ่งในช่วงแรกจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่น้องๆ ผู้ชายต่างตั้งตารอปล่อยของออกมาอย่างเต็มที่ โดยการแข่งขันเป็นไปอย่างสนุกสนานต่างคนต่างก็โชว์ความสามารถออกมาเรียกว่าไม่มีใครยอมใครเลย ขณะเดียวกันกลุ่มพี่ๆ สตาฟฟ์ก็ยังขอรวมทีมดวลแข้งกับน้องๆ อีกด้วยเรียกเสียงเฮฮาให้กับเหล่าวิทยากรได้พอสมควร แล้วผลการแข่งก็เป็นพี่ๆ สตาฟฟ์ที่พ่ายไปเฉียดฉิว
เมื่อแข่งฟุตบอลกันเสร็จแล้วก็มาพักเบรกเติมพลังก่อนจะไปลุยโปโลน้ำ ซึ่งด้วยสภาพอากาศในเวลาสายๆ ใกล้เที่ยงค่อนข้างร้อนน้องๆ ต่างรีบเปลี่ยนชุดกระโดดลงน้ำเพื่อดับร้อนกันอย่างสนุกสนานและเมื่อมาถึงเวลาแข่งโปโลน้ำก็สนุกไม่แพ้กันต่างก็เต็มที่กับเกมกีฬาเป็นอย่างยิ่งแต่ทั้งเกมการแข่งขันก็มีแต่เสียงหัวเราะของชาวค่าย
กิจกรรมช่วงบ่ายจะเป็นเกมนันทนาการ 5 ฐานจากทีมงาน อ.อุดม วงศ์หอม โดยแบ่งน้องๆ เป็น 5 กลุ่มเวียนตามฐาน แต่ถ้าบอกว่าเป็นกิจกรรมของ อ.อุดม แน่นอนว่าเกมทุกเกมฐานทุกฐานต้องแฝงไปด้วยปรัชญาความสามัคคี ไหวพริบ และ การแก้ไขสถานการณ์ แต่ด้วยแนวคิดนี้ก็ถือว่าน้องๆ ได้สนุกด้วยและยังได้ปรัชญาทางความคิดอีก บอกเลยว่า "อ.เบิ้ม" อุดม วงศ์หอม สุดยอดปรัชญาจริงๆ
แต่ถ้าจะบอกว่าไฮไลต์สำคัญที่พลาดไม่ได้เลยในวันนี้ก็คือกิจกรรมนันทนาการดนตรีรอบกองไฟ ซึ่งจะเป็นกิจกรรมกลุ่มที่น้องๆ ชาวค่ายต้องฝ่าด่านอรหันต์จากเหล่าวิทยากรบอกเลยว่าสุดหินที่สุดเป็นการทดสอบกำลังใจรวมไปถึงเอาวิชาความรู้ที่ได้มาใช้เพื่อให้ผ่านด่านต่างๆ เพื่อที่จะไปเฉลิมฉลองร้องเพลงกินขนมเล่นดนตรีและนัยหนึ่งของกิจกรรมนี้ก็เปรียบเสมือนกิจกรรมสุดท้ายสั่งลาชาวค่ายทำให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไม่อยากจากกันซึ่งสร้างความประทับใจให้กับชาวค่ายเป็นอย่างมาก
ซึ่งวันนี้ก็จบลงด้วยภาพความประทับใจที่สุดจะบรรยายแต่พรุ่งนี้ต้องจากกลับภูมิลำเนากันจริงๆ แล้วเชื่อว่าต้องมีแชร์อะไรให้ประทับใจอีกแน่นอน
จากใจชาวค่าย ณัฐกลม สร้อยทิพย์ เกิด 20 พ.ย. 2545 อายุ 14 ปี ภูมิลำเนา จ.ลพบุรี "ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ชอบกีฬาฟุตบอลมากเพราะเห็นผู้ชายเล่นแล้วสนุกดีก็จะเอาทักษะฟุตบอลไปใช้เล่นจริงๆ"
โอวา พาพันธ์ เกิด 25 มี.ค.2544 อายุ 15 ปี ภูมิลำเนา กทม. "ได้รับการชักชวนจากผู้ใหญ่ในชุมชนที่ผ่านการอบรมค่ายผู้นำ มาตอนแรกก็เกร็งๆ บ้างแต่พออยู่ไปก็ชอบค่ายนี้มากๆ "
จากใจวิทยากร อำนวย เผยศิริ เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์การกีฬา สพล.อ่างทอง กล่าวว่า "รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นวิยากรรับเชิญในเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งอยากจะปลูกฝังตัวน้องๆ ให้มีใจรักในการออกกำลังกาย ถึงแม้ว่ากลับไปแล้วอาจจะไม่ได้เล่นอุปกรณ์แบบในห้องฟิตเนสแต่เราก็สามารถทำบอร์ดี้เวตได้ง่ายๆ แล้วน้องๆ สามารถเอาความรู้ที่ได้ในวันนี้ไปบอกต่อเพื่อนๆ ได้เพราะในสมัยนี้หลายคนกำลังให้ความสนใจวิทยาศาสตร์การกีฬาแล้วเนื้อหาที่ได้สอนไปก็เป็นเรื่องอุปกรณ์การออกกำลังกายพื้นฐาน"
อ.วายุ พยัคฆันตร ผู้อำนวยการค่าย กล่าวว่า "ภาพร่วมแล้วตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เด็กมีพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงขึ้นโดยวันแรกยังคงแข็งๆ แต่พอเราเอาระเบียบวินัยเข้ามาดูแลพฤติกรรมของเด็กก็ดีขึ้นมีความเป็นกลุ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันเหล่าวิทยากรที่มาให้ความรู้ก็เข้าใจในจิตวิทยาของเด็กเป็นอย่างดีอีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่เข้าใจง่ายมีกิจกรรมสนุกๆ ให้เด็กได้ร่วมเล่น ซึ่งต้องบอกว่าในกลุ่มที่อ่างทองนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่ตรงตามจุดประสงค์ของค่าย สสส. คือเป็นเด็กที่อายุระหว่าง 12-15 ปี ก็ต้องขอชื่นชมทุกคนในค่ายนี้ที่ช่วยกันจนสำเร็จ"
