แอ่วหาชาวบ้าน เปิดโลกทัศน์ สร้างเรา
“ความฝันอันเรียบง่ายของผม คืออยากให้พี่น้องประชาชนในตำบลบ้านต๋อมมีความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาชีพ กลุ่มภูมิปัญญาชาวบ้าน และเรื่องของสุขภาพหลายๆ ด้าน” ดาบตำรวจมนตรี วงศ์อภิสิทธิ์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
บ้านต๋อมเป็นตำบลเล็กๆ ในอำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ตำบลบ้านต๋อมเริ่มต้นทำงานกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ในโครงการชุมชนสุขภาวะมาได้เกือบ 1 ปี โดยก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมนั้น ทางเทศบาลตำบลบ้านต๋อมก็ได้ทำงานในลักษณะนี้อยู่ก่อนแล้ว เพราะพื้นฐานของงานอยู่ภายใต้หลักของการพัฒนาชุมชน เพียงแต่ว่า การทำงานของเรานั้นยังมีช่องโหว่ ซึ่ง สสส. เป็นผู้เข้ามาแนะนำ โดยพานักวิชาการตลอดจนแนะนำให้รู้จักเพื่อนในเครือข่าย มาช่วยกันจัดหมวดหมู่งานของเรา จากเดิมที่สะเปะสะปะ เรื่องเด่นหลายเรื่องก็ตกหล่นไป ก็นำมาบูรณาการหรือเชื่อมโยงกัน โดยมี สสส. เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้
เป็นเรื่องที่ดีที่ สสส. เข้ามาช่วยดูแลเรา ทำให้บ้านต๋อมเป็นที่รู้จักของเพื่อนเครือข่ายจากทั่วประเทศที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ตลอดจนร่วมกันพัฒนา เกิดการบรูณาการ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างเทศบาล หรือ อบต. ซึ่งก่อนหน้านี้ เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อน สสส. ช่วยเปิดโลกทัศน์ ให้เราได้รู้จักคนเยอะขึ้น ได้เพื่อนจากจังหวัดอื่นที่สามารถทำงานร่วมกันได้
ยอมรับเลยว่า หลายสิ่งที่บางครั้งเราว่า เราดีแล้ว พอไปเจอที่อื่น ที่อื่นเขาก็มีดีเหมือนกับเรา โลกทัศน์เหล่านี้เป็นข้อมูลให้เรานำเอาสิ่งนั้นมาบูรณาการร่วมกัน ผมถือว่า สสส. เป็นหน่วยงานที่เป็นรากฐานของการพัฒนา โดยเฉพาะในเรื่องของความเป็นอยู่ ในเรื่องของการใช้ชีวิต โดยมีพื้นฐานสำคัญคือครอบครัว คือสุขภาพ สสส. เข้ามาช่วยจัดการให้ภาพออกมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โครงการตำบลสุขภาวะมีเป้าหมายที่ดี คือการสร้างตำบลที่มีความสุขรอบด้าน ซึ่งในความคิดของผมคือตำบลที่สามารถสร้างความสุขให้ชาวบ้าน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมดหรือทั้งตำบล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพทางด้านจิตใจร่างกาย และทางด้านครอบครัว ตลอดจนการอยู่ร่วมกันในสังคม ทุกๆ อย่างที่เป็นเรื่องของชาวบ้าน เรื่องของชุมชนจะต้องทำให้ชาวบ้านมีความสุขมากที่สุด ซึ่งเป็นความฝันอันเรียบง่ายของผม คืออยากให้พี่น้องประชาชนในตำบลบ้านต๋อมมีความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาชีพ กลุ่มภูมิปัญญาชาวบ้าน และเรื่องของสุขภาพหลายๆ ด้าน
สิ่งที่ต้องพูดถึงอีกเรื่อง คือการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเราทำมาแต่เดิมอยู่แล้ว คือการส่งเสริมให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานเกือบทุกอย่าง เพราะมีนโยบายจากฝ่ายบริหารว่า ต้องดึงชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมทุกเรื่อง แม้กระทั่งการจัดทำเทศบัญญัติ ผ่านการประชุมที่ผมทำอยู่ในลักษณะสภากาแฟ คือเป็นการประชุมสัญจรไปยัง 18 หมู่บ้านของบ้านต๋อม
ทุกๆ เดือนจะเชิญผู้นำท้องที่ ไม่ว่าจะเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานแม่บ้าน ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน ประธาน อสม. ตลอดจนกลุ่มเยาวชน เช่น กลุ่มสภาเยาวชนตำบล เพื่อเข้าร่วมประชุมสัญจร โดยผมจะไปทุกหมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านจะมีการหารือกันนอกรอบ แม้กระทั่งสภาเทศบาล (สท.) โดยเราจะให้ชาวบ้านเสนอความต้องการให้กับผู้นำชุมชนมาก่อน แล้วเราก็มานั่งคุยกันนอกรอบ อย่างการทำเทศบัญญัติ เราจะเอา สท. กับผู้นำท้องที่อย่างผู้ใหญ่บ้าน กำนันมานั่งคุยกันก่อนว่า แต่ละหมู่บ้านต้องการอะไร แล้วเราก็มานั่งคุยกับ สท.อีกรอบหนึ่งก่อนที่จะมีการจัดทำเทศบัญญัติในการจัดประชุมสภาใหญ่ เพราะถือว่า จบจากข้างนอกมาแล้วค่อยมาคุยในสภาใหญ่
กระนั้น ความที่ชุมชนบ้านต๋อมเป็นชุมชนกึ่งเมืองกึ่งชนบท เราอยู่ในเขตอำเภอเมือง เป็นที่ตั้งของศาลากลาง ศูนย์ราชการทั้งหมดอยู่ในบ้านต๋อม เราจึงพบเจอปัญหายาเสพติด เพราะนอกจากหน่วยงานต่างๆ ที่นี่ยังมีวิทยาลัยอยู่แห่งหนึ่ง เด็กมารวมกันจากต่างที่ต่างถิ่น จึงเป็นปัญหาที่เราพบตอนนี้ สิ่งที่เราทำได้คือ การประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับทางผู้อำนวยการวิทยาลัย และทำงานร่วมกับทางท้องที่ ร่วมมือกับทางอำเภอให้มีการจัดตั้งด่านตรวจยาเสพติดอยู่ทุกเดือน
ในส่วนของโครงการสุขภาวะนั้น ตอนนี้เราเกือบครบปี เหลือเวลาอีก 2 ปี บ้านต๋อมจะต้องพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้วันหนึ่ง เมื่อ สสส. ไม่ได้สนับสนุนแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะยังดำเนินต่อไปได้บนพื้นฐานความรวมใจของชาวบ้าน ณ วันนี้ เราประสบผลสำเร็จในเรื่องของการเข้าหาชาวบ้านแล้ว
ผมมีโครงการแอ่วหาชาวบ้าน โดยจะพาผู้นำ ผู้บริหาร สท. ที่ว่าง เดินทางไปเยี่ยมชาวบ้านด้วยตัวเอง เพราะเห็นว่า หลายครั้งชาวบ้านไม่กล้าเข้าหาผู้นำ พอเราออกไปก็เจอปัญหา เช่น ไฟกิ่ง ไฟแสงจันทร์ ปัญหาเรื่องของถนน ที่บางครั้ง เราสามารถซ่อมได้ทันที
นอกเหนือจากการทำงานร่วมกับ สสส. เรายังทำงานร่วมกับส่วนราชการอื่นๆ ได้ดีด้วย อาจจะเพราะผมเป็นข้าราชการมาก่อน การทำงานตรงนี้จึงค่อนข้างง่าย ไม่มีปัญหาเท่าไร บ้านต๋อมได้รับความร่วมมือจากภาครัฐทุกส่วน อย่างเรื่องของศาล เราได้รับความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เรื่องของวิทยาลัยพยาบาล เราประสานในเรื่องของการออกเยื่ยมบ้าน ออกตรวจสุขภาพให้กับชาวบ้าน แล้วเรื่องของโรงพยาบาล เราจัดทำกลุ่มออกตรวจฟันให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ ส่วนของการไฟฟ้า เราจัดบริการให้กับชาวบ้าน เช่น ออกไปตรวจไฟฟ้าที่บ้าน หลอดไฟตรงไหนเสียเรารีบบริการ โดยเราจัดตั้งศูนย์ซ่อมสร้างไว้ในวิทยาลัยเทคนิค
อย่างที่บอกไปแล้วว่า บ้านต๋อมอยู่ในเขตเมือง จึงมีความข้องเกี่ยวไปทั่วเวลาทางเราได้รับการร้องขอความอนุเคราะห์จากโรงเรียน ซึ่งจริงๆ บ้านต๋อมเองไม่มีโรงเรียนอยู่ในสังกัดของท้องถิ่น แต่อย่างน้อย เราถือว่าโรงเรียนเหล่านี้อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เราก็ให้การช่วยเหลือ เช่น ในเรื่องของอาหารกลางวัน ส่วนเรื่องของทุนการศึกษา บางครั้งไม่สามารถช่วยได้ ต้องหางบประมาณข้างนอกมาช่วยโรงเรียน แต่เราก็ยินดีทำ
ที่มา : สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สน.3) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ