แรงงานหญิง ดื่มเหล้ามากขึ้น เพราะเครียด

/data/content/24166/cms/e_bgklmnuxy278.jpg


          มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานเสวนา "แกะรอยวิกฤตแรงงานหญิงไทยกับสุรา" เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2557 โดยมีกลุ่มสหภาพแรงงาน กลุ่มแรงงานนอกระบบ องค์กรสตรี เข้าร่วมกว่า 40 คน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

          น.ส.ปุณิกา อภิรักษ์ไกรศรี อาจารย์ประจำคณะสังคม สงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยงานวิจัย "ชีวิตแรงงานหญิงกับวงจรเครื่องดื่มแอลกอ ฮอล์" ปี 2556-2557 โดยสำรวจจากกลุ่มแรงงานหญิงพื้นที่จ.นนทบุรี เครือข่ายสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ และแรงงานเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน จำนวน 1,667 ราย


          พบว่าปัจจัยที่ทำให้แรงงานหญิงมีพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบต่อเนื่องและเพิ่มระดับดีกรีขึ้น มาจาก


          1.ประสบการณ์การดื่มครั้งแรก ซึ่งมีผลต่อการดื่มในครั้งถัดไป เช่น ดื่มครั้งแรกมีประสบการณ์ที่ดี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีรสชาติดี มีรสชาติหวาน ก็จะกระตุ้นให้ดื่มในครั้งถัดไปและเพิ่มดีกรีมากขึ้นได้ง่าย


          2.กลุ่มเพื่อน ถือว่ามีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดื่มอย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มตัวอย่างให้เหตุผลในการดื่มว่าเพื่อสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนฝูง พูดคุยแลกเปลี่ยนสารทุกข์สุกดิบ 

          3.วาระและโอกาสในการดื่ม พบกลุ่มตัวอย่างมากถึงร้อยละ 34.19 ที่ไม่ได้ดื่ม เป็นประจำ แต่มักดื่มตามวาระพิเศษ เช่น งาน วันเกิดเพื่อน งานเลี้ยงบริษัท งานเทศกาล และ 4.สถานการณ์ปัญหาชีวิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการดื่มต่อเนื่องและเพิ่มระดับดีกรีที่เข้มข้นมากขึ้น ได้แก่ ปัญหาครอบครัว ร้อยละ 28.91 รองลงมาปัญหาความรัก ร้อยละ 25.59 และปัญหาการทำงาน ร้อยละ 23.63

          ผลกระทบจากการดื่มของแรงงานหญิง พบว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกลวนลาม ร้อยละ 15.39 ทั้งยังพบพฤติกรรมการดื่มของแรงงานหญิงส่งผลให้ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 7.92 นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ร้อยละ 78.72 การดื่มยังนำไปสู่ความขัดแย้งทะเลาะวิวาทในครอบครัวและมีเวลาให้กันน้อยลงที่น่าห่วงคือแรงงานหญิงบางรายมีพฤติ กรรมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะตั้งครรภ์ ร้อยละ 5.55 นอกจากนี้การดื่มของแรงงานหญิงยังส่งผลต่อการทำงาน คือ มีปัญหากับนายจ้าง ขาดงาน ส่งผลต่อการทำงานล่วงเวลา 


  /data/content/24166/cms/e_bcknopquvyz5.jpg          "ผลการวิจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นวงจรชีวิต ผลกระทบ และแนวโน้มของพฤติกรรมการดื่ม จะขึ้นอยู่กับสภาวะการถูกกดทับจากสภาพการทำงานและสิ่งแวดล้อมในสังคม ที่มีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก ทัศนคติ การดื่มจึงเป็นช่องทางระบายความรู้สึก มีพื้นที่ปลดปล่อยความรู้สึก ดังนั้นการสร้างพื้นที่เรียนรู้และเข้าใจวิถีชีวิตของแรงงานหญิงจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาในโรงงาน ส่งเสริมกิจกรรมการรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงานหญิง การจัดการภาวะทางอารมณ์ ส่งเสริมทักษะชีวิตด้านจัดการปัญหา และควรมีการพัฒนาสภาพการทำงานและสภาพการจ้างงานให้ดีขึ้น" น.ส.ปุณิกากล่าว


          ด้าน นางสุรินทร์ พิมพา ผู้นำแรงงานหญิงกลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ จ.สมุทรสาครและจ.นครปฐม กล่าวว่า ปัญหาแรงงานหญิงกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไขจริงจัง รวมถึงการถูกละเมิดสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง เช่น ช่วงลาคลอดมีระยะเวลาสั้นเกินไป หรือแม้กระทั่งการถูกปลดออก ทั้งที่มีกฎหมายห้ามปลดออกอย่างชัดเจน 


          "อยากให้แก้ปัญหา ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานหญิง ลดพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นายจ้างหรือบริษัทควรมีกฎระเบียบเข้มงวด ห้ามดื่มในวันทำงานและคืนก่อนวันทำงาน เพื่อป้องกันการเมาค้าง และลงโทษผู้ที่ยังมีอาการเมาค้าง มาสาย ขาดงาน พร้อมมีมาตรการส่งเสริมผู้เลิกดื่ม เช่น เพิ่มรายได้หรือสวัสดิการ

          นอกจากนี้ปัญหาแรงงานหญิงตั้งครรภ์ทั้งคนไทยและพม่ายังถูกกดขี่ บางคนถูกไล่ออก หรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุในระหว่างทำงานก็ไม่ได้รับการดูแล จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง" นางสุรินทร์กล่าว 


 


 


 


          ที่มา : ข่าวสดรายวัน 


          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code