แพทย์เผยชายไทยฮิตทำเลเซอร์เสริมความงามมากขึ้น 10-15%

 

แพทย์เผยชายไทยฮิตทำเลเซอร์เสริมความงามมากขึ้น 10-15%

 

พบชายไทยนิยมเลเซอร์เพื่อความงามมากขึ้น 10-15% รักษาการ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง แนะคิดก่อนทำ โดยเฉพาะผู้มีอาการแพ้ง่าย ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน ด้านรองอธิบดีกรมการแพทย์ ติงหมอเปิดคลินิกความงามแข่งขันอย่างดุเดือด ผิดระเบียบแพทยสภา

นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า โรคผิวหนังเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศไทย ซึ่งแต่ละปีมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่สถาบันโรคผิวหนังมากถึง 1.8 แสนคนต่อปี โดยอาการของโรคที่พบมากที่สุด คือ 1.อาการผื่นแพ้จากปูนซีเมนต์ หรือผงซักฟอก 2.ปัญหาสิว และ 3.ปัญหาเรื่องสีผิว โดยปัจจุบันคนไทยมีแนวโน้มเข้ารับการรักษาโรคผิวหนังด้วยเลเซอร์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชายที่เพิ่มมากขึ้น 10-15% สำหรับสัดส่วนในการรักษาโรคผิวหนังด้วยเลเซอร์ พบว่า ร้อยละ 95 เข้ารับการรักษาเนื่องจากความนิยมในเรื่องของความสวยงาม ได้แก่ การทำหน้าขาวใส ลบรอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ทำผิวให้กระชับ กำจัดขน และรักษาอาการเส้นเลือดขอด ส่วนที่มารับการรักษาโรคจริงๆ อาทิ ปานแดง ปานดำ และเนื้องอกมีไม่ถึง และร้อยละ 5

นพ.จินดา กล่าวอีกว่า ข้อควรระวังในการรักษาและเสริมสวยด้วยเลเซอร์ คือ ผู้ที่มีอาการแพ้ง่ายควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษา ส่วนผู้ป่วยเบาหวานจะต้องควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะจะมีผลต่อการหายจากโรค ที่สำคัญคือเมื่อทำการรักษาไปแล้วจะต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด สำหรับค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับโรคและเครื่องมือที่ใช้ในการรักษา

“ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยเลเซอร์ ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนว่า มีความจำเป็นต้องรักษาด้วยเลเซอร์หรือไม่ เพราะอาการทางผิวหนังบางอย่างอาจหายไปเองได้ และหากมีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยเลเซอร์ จะต้องมีการปรึกษาแพทย์ก่อนว่า ต้องมีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษาอย่างไรบ้าง รวมไปถึงหลังการรักษาว่าจะเกิดผลข้างเคียงอย่างไร และบางกรณีที่ไม่สามารถรักษาแล้วหายภายในครั้งเดียว อาจทำให้มีค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง” นพ.จินดา กล่าว

ด้าน นพ.จิโรจ สินธวานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อดีตผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า ปัญหาผิวพรรณและผิวหน้าเป็นสิ่งใกล้ตัว ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดคลินิกเพื่อดูแลด้านนี้อยู่เป็นจำนวนมาก และมีกลยุทธ์ในการแข่งขันที่รุนแรง เพื่อชักจูงให้ประชาชนไปใช้บริการด้วยการจัดโปรโมชันลด แลก แจก แถม และจัดโปรแกรมการให้บริการ ซึ่งลักษณะอย่างนี้ถือว่าผิดระเบียบของแพทยสภา ที่แพทย์ไม่สามารถกระทำการอย่างนี้ได้

นพ.จิโรจ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ประชาชนควรทำความเข้าใจ คือ การรักษาด้วยเลเซอร์ไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง เนื่องจากเลเซอร์แต่ละตัวมีข้อจำกัดในตัว เลเซอร์บางอย่างไม่สามารถใช้กับบางเรื่องได้ ฉะนั้น การทำเลเซอร์นอกจากต้องคำนึงถึงชนิด อาการ และเครื่องมือที่ใช้แล้ว ยังต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ให้บริการในการรักษาด้วย ทั้งนี้ หากมีการเปิดเสรีเศรษฐกิจอาเซียน เชื่อว่า สถาบันโรคผิวหนัง ซึ่งถือเป็นหน่วยงานราชการที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่องมือที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ จะทำให้มีผู้ป่วยต่างชาติมารับบริการมากขึ้น

 “ปัจจุบันมีการสร้างดีมานด์เทียม เช่น เรื่องขาวทั้งตัว ซึ่งถือเป็นเรื่องการตลาดทั้งสิ้น และคลินิกบางแห่งก็มีการนำยาผิดกฎหมายเข้ามาใช้ เพื่อตอบสนองต่อค่านิยมที่เกิดขึ้น ทำให้ประเทศไทยอาจรู้สึกชินกับการใช้ของที่ไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลให้มาตรฐานของประเทศไทยตกต่ำในอนาคต” รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ astv ผู้จัดการ

Shares:
QR Code :
QR Code