แพทย์ชี้ผู้หักดิบเหล้า เลิกได้ ไม่เสียชีวิต

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


แพทย์ชี้ผู้หักดิบเหล้า เลิกได้ ไม่เสียชีวิต thaihealth


แพทย์เตือนผู้ติดสุรา เสี่ยงเสียชีวิตสูง แต่หักดิบเลิกได้ ยกเว้นผู้มีโรคประจำตัว ต้องระวัง พบ 5% มีอาการถอนรุนแรง หูแว่ว เพ้อ คลั่ง ความจำระยะสั้นหาย เร่งพบแพทย์ด่วน แนะ สายด่วนเลิกเหล้า 1413 ช่วยได้ “อดีตคนเคยลงแดง” เปิดใจ หักดิบสำเร็จ สุดท้ายได้ชีวิตใหม่สุขภาพดีขึ้น  ผันตัวเป็นนักรณรงค์ชวนคนเลิกเหล้า


วันที่ 18 สิงหาคม 2559 เวลา10.00 น.ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) ร่วมกับ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา1413 และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนา “ไขความจริง :พักตับ…หักดิบ..ลงแดง”


โดย พ.อ.นพ.พิชัย แสงชาญชัยจิตแพทย์ กองจิตเวชและประสาทวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า กล่าวว่า จากกรณีข่าวอุทาหรณ์ผู้ป่วยเมาสุราคลั่งในโรงพยาบาล และกรณีหักดิบเลิกดื่มเพื่อเข้าพรรษาจนเกิดอาการช็อคเสียชีวิต 2 รายนั้น หากมองในมุมทางการแพทย์ผู้ป่วยลักษณะนี้ ถือว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง เช่น ดื่มสุรามานานและดื่มหนัก เป็นผู้สูงอายุ อีกทั้งอาจมีโรคประจำตัวและโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ตับแข็ง ตับอักเสบ ขาดสารอาหาร เป็นต้น รวมถึงขาดญาติดูแลใกล้ชิด ซึ่งจากข้อมูลพบผู้ติดสุราที่มีโอกาสถอนสุรารุนแรง หรือกลุ่มเสี่ยงสูงประมาณ 5% ปัจจัยเสี่ยงต่อการถอนรุนแรง ได้แก่ ดื่มปริมาณมากและนาน โดยดื่มเหล้าขาวตั้งแต่ 1 แบนต่อวัน หรือดื่มเบียร์ตั้งแต่ 5 ขวดต่อวัน เป็นเวลา 5 ปีขึ้นไป อีกทั้งยังพบในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีโรคทางกายแทรกซ้อน เคยหยุดสุราแล้วชักหรือสมองสับสน ติดสารเสพติดหลายตัว


แพทย์ชี้ผู้หักดิบเหล้า เลิกได้ ไม่เสียชีวิต thaihealthผู้ที่ต้องการหยุดดื่มสุราส่วนใหญ่ สามารถหยุดเหล้าได้เลย อาการถอนมักไม่รุนแรง อาการเริ่มเกิดขึ้นภายใน 6-8 ชม.หลังจากหยุดหรือลดปริมาณการดื่ม เป็นอาการของระบบประสาทตื่นตัว เช่น คลื่นไส้อาเจียน มือสั่น ใจสั่น เหงื่อแตก หงุดหงิด อยากดื่ม ชีพจรเร็ว ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น อาการจะเป็นมากที่สุดในวันที่ 2 และจะเบาลงและหายไปในวันที่ 3-5 ส่วนอาการถอนรุนแรง ถือเป็นอาการฉุกเฉินที่ต้องไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากร่างกายปรับสภาพไม่ทัน อาการที่พบคือ มีอาการคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ชัก หูแว่ว เพ้อคลั่ง สับสน สูญเสียความทรงจำระยะสั้น ประสาทหลอน แพทย์จะให้ยากลุ่ม benzodiazepine เพื่อบรรเทาอาการถอนสุรา ป้องกันอาการชักและสมองสับสน เมื่ออาการคงที่แพทย์จะลดปริมาณยาลงจนหมดไป รวมระยะเวลาในการักษาประมาณ 7-10 วัน” พ.อ.พิชัย แสงชาญชัย กล่าว


พ.อ.นพ.พิชัย กล่าวด้วยว่า ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา หรือ 1413 สายด่วนเลิกเหล้า เป็นช่องทางที่ผู้ดื่มและญาติเข้าถึงได้ง่ายและได้รับคำปรึกษาที่ถูกต้อง จากสถิติการให้บริการ 60% ที่โทรเข้ามาเป็นญาติ อีก40%เป็นผู้ที่ดื่มสุรา ซึ่งแต่ละปีจะมีการโทรปรึกษามากกว่าหมื่นสาย ยิ่งถ้าเป็นช่วงเข้าพรรษาจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปยังผู้ที่ตั้งใจงดดื่มและอยากงดต่อเนื่องหลังออกพรรษาจะส่งผลดีต่อสุขภาพกายใจแน่นอน ทั้งนี้หากผู้ติดสุรามีปัจจัยเสี่ยงต่อการถอนรุนแรงดังกล่าวข้างต้น ควรเข้ารับคำปรึกษาในการเลิกสุราจากแพทย์ ส่วนภาครัฐควรมีการรณรงค์สร้างความตระหนัก ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษพิษภัยของสุรากับประชาชนอย่างต่อเนื่อง มีการคัดกรองผู้ทีติดสุรา เพื่อจูงใจผู้ดื่มหนักให้ปรับเปลี่ยน และนำผู้ติดสุราเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถต่อยอดการรักษาอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


นายดำรงค์ เภตรา อายุ 71 ปี ชุมชนสวนอ้อย เขตคลองเตย ผู้ที่เคยหักดิบเลิกสุรา ปัจจุบันผันตัวมาเป็นแกนนำแพทย์ชี้ผู้หักดิบเหล้า เลิกได้ ไม่เสียชีวิต thaihealthเครือข่ายผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า เคยพยายามเลิกดื่มสุรามาแล้วหลายรอบ แต่เลิกไม่ได้ จนกระทั่งมีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการลดละเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  กับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล สสส. บวกกับมีปัญหาสุขภาพ เงินไม่เหลือเก็บ มีปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัวเป็นประจำ อีกทั้งสำนึกผิดที่เป็นตัวอย่างไม่ดีทำให้ลูกเกเรดื่มเหล้าติดยาเพราะตัวเองไม่ใส่ใจดูแลครอบครัว จึงตัดสินใจใช้วิธีหักดิบหยุดดื่มสุรา และตั้งใจเลิกดื่มตลอดชีวิตโดยใช้ช่วงเข้าพรรษาเป็นจุดเริ่มต้น


“ตอนนี้เลิกเหล้าได้ 7 ปีแล้ว มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น หันมาเป็นนักรณรงค์ทำงานเพื่อสังคม ซึ่งวันที่ตัดสินใจเลิกดื่มแรกๆ ทรมานมาก ปวดหัว หงุดหงิด โมโหง่ายเห็นอะไรขวางหูขวางตาไปหมด นอนไม่หลับเป็นอาการของคนลงแดง พยายามดื่มน้ำเปล่าแทนเหล้า ไม่คลุกคลีกับคนที่ชวนดื่ม หันมาดื่มน้ำสมุนไพรมากขึ้น  สำคัญใจเราต้องตั้งมั่นจริง ต้องเชื่อว่าเราทำได้  และจากประสบการณ์ยืนยันได้เลยว่าคนที่หักดิบเลิกดื่มเหล้าแล้วเสียชีวิตไม่ได้มาจากหยุดดื่ม แต่เพราะปัญหาสุขภาพมีโรคประจำตัวอื่นมากกว่า” นายดำรงค์ กล่าว


ขณะที่นางสุวิสา แก้วบัวปัท อายุ 46 ปี ภรรยาที่ต้องสูญเสียสามีไปในช่วงที่กำลังลดละเลิกสุรา กล่าวว่า ตนต้องสูญเสียสามีด้วยอายุเพียง 47 ปี เพราะอุบัติเหตุล้มศีรษะกระแทกพื้นอย่างรุนแรง ซึ่งตอนนั้นไม่ได้พาสามีส่งโรงแพทย์ชี้ผู้หักดิบเหล้า เลิกได้ ไม่เสียชีวิต thaihealthพยาบาลทันที เพราะเขาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก และไม่มีอาการ กระทั่งเริ่มผิดปกติ จึงพาส่งโรงพยาบาล ซึ่งผ่านไปกว่า 6 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุสามีอยู่ในห้องไอซียู หลายวันจนกระทั่งเสียชีวิตเนื่องจากกะโหลกศีรษะร้าว มีเลือดคลั่งในสมอง อย่างไรก็ตาม ช่วงที่สามียังมีชีวิตอยู่เขาพยายามจะเลิกสุรา เคยไปร่วมเข้าค่ายกับโครงการลดละเลิกสุรา และตั้งใจที่จะเลิกดื่มเพราะเป็นพิษสุราเรื้อรัง บวกกับมีโรคประจำตัว มีปัญหาสุขภาพด้วย   ซึ่งทุกคนในครอบครัวให้กำลังใจหวังว่าจะเอาชนะสุรากลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่สุดท้ายก็สายไปแล้ว


“จนถึงตอนนี้ก็ยังโทษตัวเองและรู้สึกผิด ถ้าพาสามีส่งโรงพยาบาลทันทีคงมีโอกาสรอดมากกว่านี้ ซึ่งอยากฝากเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ดื่มสุราหนักและพยายามจะลดละเลิก ครอบครัวคนรอบข้างควรดูแลและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดห้ามปล่อยไว้ตามลำพัง ส่วนคนป่วยเอง หากมีอาการที่ไม่ไหว หรือมีปัญหา ต้องรีบบอกคนใกล้ชิดทันที การปรึกษาแพทย์เป็นทางออกที่ดีที่สุด” นางสุวิสา กล่าว

Shares:
QR Code :
QR Code