แพทย์ชวน 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนหวัดใหญ่

ที่มา : แนวหน้า


แพทย์ชวน 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนหวัดใหญ่ thaihealth


แฟ้มภาพ


แพทย์ชวน 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนป้องกันหวัดใหญ่ฟรี ดีเดย์ 1 มิถุนายนนี้ ชี้พบบ่อยทุกกลุ่มอายุ เกิดได้ตลอดปี แต่ระบาดมากในฤดูฝน เผยปี’60 ป่วยเฉียด 2 แสนราย เสียชีวิต 55 ราย จับตาปี’61 มีแนวโน้มป่วยมากขึ้น 


นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคพบบ่อยในทุกกลุ่มอายุ เกิดได้ตลอดปี แต่ระบาดมากในฤดูฝน  ในกลุ่มเสี่ยงมีภูมิต้านทานน้อยอาจมีอาการแทรกซ้อน บางรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ จากรายงานเฝ้าระวังโรคโดยสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคปี 2560 พบผู้ป่วย 196,765 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 300.74 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 55ราย สูงกว่าค่ามัธยฐาน5ปีย้อนหลัง ทั้งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและในปี2561 ตั้งแต่ 1 ม.ค. -31 มี.ค.พบผู้ป่วยจำนวน 29,324 ราย เสียชีวิต 1 ราย ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์  A (H1N1), A (H3N2) และสายพันธุ์ B ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด สปสช.ร่วมกับกรใตวบคุมโรคจึงจัดเตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฤดูกาลใหม่ 3.5 ล้านโด๊ส เพื่อฉีดให้กับประชาชนทุกสิทธิที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติกำหนด คือ 1. หญิงมีครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2. เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี 3. ผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ หืด ไตวาย หลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4. ผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป 5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6. โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ และ 7. โรคอ้วน หรือผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร 


นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนผลิตจากเชื้อตาย 3 สายพันธุ์ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก พบการระบาดมากในประเทศไทยและทั่วโลก ประกอบด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N1) เป็นสายพันธุ์เดิมมิชิแกน, ชนิด A (H3N2) เป็นสายพันธุ์ใหม่สิงคโปร์แทนฮ่องกง ใกล้เคียงกับสายพันธุ์ที่ระบาดในไทยถึงร้อยละ 87.50 และไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด B สายพันธุ์ใหม่ ยามากะตะ/ภูเก็ต แทนวิคตอเรีย/บริสเบน เป็นสายพันธุ์ที่พบร้อยละ 95.14 ในกลุ่มผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ในไทย  ทั้งนี้ วัคซีนที่เตรียมไว้นี้ถือว่สที่ได้ผลดี ไม่มีปัญหากลายพันธุ์และมีความปลอดภัย ใช้ในประเทศไทยมากว่า 10 ปีแล้ว ทั้งคุ้มค่ากว่าวัคซีน 4 สายพันธุ์ที่เพิ่งมีการให้บริการฉีดในภาคเอกชน โดยเพิ่มสายพันธุ์ชนิด B/วิคตอเรีย ซึ่งองค์การอนามัยโลกระบุว่า พบน้อยที่สุด มีความชุกเพียงร้อยละ 5 ดังนั้นในด้านประสิทธิภาพความครอบคลุมระหว่างวัคซีน 3สายพันธุ์และ4สายพันธุ์ ทางการแพทย์ถือว่ามีความใกล้เคียง ไม่จำเป็นต้องใช้วัคซีน 4 สายพันธุ์ที่มีราคาสูงกว่า 2-3เท่า


จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงมารับวัคซีนฟรีได้ตังแต่วันที่ 1มิถุนายนเป็นต้นไป อย่างไรก็ตามการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ วัคซีนมีผลช่วยได้ร้อยละ60-70 ดังนั้นการดูแลตนเองด้วยการหลีกเลี่ยงหรือป้องกันตนเองจากการสัมผัสผู้ที่ป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ การทำร่างกายให้แข็งแรง กินอาหารที่เอื้อต่อสุขภาพและล้างมือให้สะอาด ยังเป็นมาตรการที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไป

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ