แนะระบายความรู้สึก ลดเครียดข่าวโควิด-19
ที่มา : เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์
แฟ้มภาพ
สถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเวลานี้ สร้างความกลัว ความวิตกกังวล ให้ใครหลายคน เนื่องจากยังคงมีข่าวพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพตนเองให้ดี หมั่นล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากอนามัย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า คนไทยส่วนมากใช้เวลาประมาณ 8-12 ชั่วโมงต่อวันในการอยู่ที่สถานที่ทำงาน และเด็กไทยใช้เวลาประมาณ 6-10 ชั่วโมงในการเรียนหนังสือ อยู่ที่สถานศึกษาต่างๆ ดังนั้น เราทุกคนจึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองและคนรอบข้าง ในสถานศึกษาและสถานที่ทำงาน ซึ่งมักเป็นสถานที่ปิดและมีคนอยู่เป็นจำนวนมาก บุคลากรในสถานศึกษาและสถานที่ทำงานต่าง ๆ ควรถือว่าปัญหาโควิด-19 เป็นวาระสำคัญของทุกคนในองค์กร แม้มีหน้าที่หลักแตกต่างกันออกไปแต่ทุกคนล้วนมีความสำคัญ และบทบาทในการควบคุมปัญหาโควิด-19 ไม่แตกต่างกัน
การรณรงค์สามารถเริ่มได้จากการพูดคุยสนทนากันในวงเล็ก ๆ พูดคุยทำความเข้าใจซึ่งกันและกันในสถานการณ์ล่าสุด ให้เพื่อนได้ระบายความรู้สึกต่าง ๆ ที่อยู่ในใจ เช่น ความกลัว ความวิตกกังวล ความเศร้า ตรวจสอบความเข้าใจว่าได้รับผลกระทบจากข่าวลือหรือข่าวปลอมหรือไม่ และหาข้อมูลเพิ่มเติมร่วมกันเพื่อหาข้อสรุป
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ครูอาจารย์ในสถานศึกษาอาจใช้เวลาส่วนหนึ่งของชั่วโมงสอน เพิ่มเติมความรู้ด้านการดูแลตัวเองของนักเรียนนิสิตนักศึกษา เช่น การกินของร้อน ใช้ช้อนกลาง ดูแลสุขภาพตนเองให้ดี หมั่นล้างมือให้สะอาด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางรัฐหรือแหล่งที่เชื่อถือได้ ถ้าเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจ ให้ใส่หน้ากากอนามัย ไม่ปกปิดข้อมูลต้องแจ้งทางการหรือปฏิบัติตามข้อแนะนำเมื่อมีความเสี่ยงต่าง ๆ ให้คำชื่นชมเมื่อนักเรียนมีการทำกิจกรรมรณรงค์เรื่องนี้ด้วยตนเอง หรือช่วยเหลือคนรอบข้างให้มีความเสี่ยงน้อยลง
สำหรับในสถานที่ทำงาน หัวหน้างานหรือผู้บริหารหน่วยงานบริษัทห้างร้านต่าง ๆ ควรดูแลบุคลากรของตนเองอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงดูแลผู้มาใช้บริการเช่นเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของบริษัทหรือหน่วยงานและลดความกังวลใจของผู้มาใช้บริการ
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า กรมสุขภาพจิตได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพบว่า มีคนส่วนหนึ่งที่ยังขาดความเข้าใจในเรื่องโควิด-19 และไม่ติดตามข่าวสารที่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความกลัวและวิตกกังวลจนใช้โควิด-19 เป็นเรื่องกลั่นแกล้งหรือกีดกันซึ่งกันและกัน ครูอาจารย์ในสถานศึกษา ควรตระหนักถึงปัญหานี้และดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการกลั่นแกล้งกันโดยใช้ความเข้าใจโควิด-19 ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งคนที่ถูกกลั่นแกล้งหรือกีดกันจากสังคมที่ไม่เข้าใจปัญหานี้ อาจเกิดความเครียด วิตกกังวล กลัว หรือไม่อยากไปเรียนหรือไปทำงานได้
ทั้งนี้ บุคลากรในสถานศึกษาและสถานที่ทำงานต่าง ๆ ควรเน้นเรื่องการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และใช้การส่งต่อ ความเข้าใจ ความรักและความห่วงใย ในการผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน