แท็กซี่ไทยปลอดภัย รวมพลังสู้หวัด 2009

หนุนขายเจล-หน้ากาก บนแท็กซี่

แท็กซี่ไทยปลอดภัย รวมพลังสู้หวัด 2009

 

             “สธ.- คณะอนุฯหวัด สสส.-อภ. จับมือเครือข่ายแท็กซี่ เปิดโครงการ แท็กซี่ไทยปลอดภัย รวมพลังสู้หวัด 2009 ลุยมาตรการ 5 ปลอด แถม อภ. หนุนขายเจล-หน้ากาก บนแท็กซี่

 

             เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 52  คณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกัน ควบคุม และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาด ของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับ เครือข่ายแท็กซี่ไทยปลอดภัยใสสะอาด องค์การเภสัชกรรม(อภ.) และกระทรวงสาธารณสุข จัดโครงการ แท็กซี่ไทยปลอดภัย รวมพลังสู้หวัด 2009”  โดยมีพนักงานขับแท็กซี่เข้าร่วมกว่า 225 คน

 

             นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แม้ปริมาณผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัด 2009 จะลดลง แต่การแพร่ระบาด จะยังไม่ยุติหรือหมดสิ้นในเวลาอันใกล้ ในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศในแทบซีกโลกเหนือ ที่เข้าสู่ฤดูหนาวจึงตื่นตัวและมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้น ในส่วนไทยซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนต่อฤดูหนาวไปจนถึงสิ้นปี จึงต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ การรณรงค์จะหยุดยั้งไม่ได้   

 

แท็กซี่ไทยปลอดภัย รวมพลังสู้หวัด 2009

             นายวิทยา กล่าวต่อว่า การป้องกันเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการต่อสู้กับไข้หวัด 2009 จึงน่ายินดีที่ คณะอนุกรรมการฯหวัด 2009 สสส. และ อภ. จับมือกับ เครือข่ายแท็กซี่ไทยปลอดภัยในสะอาด มีสหกรณ์แท็กซี่และศูนย์วิทยุเข้าร่วมแล้ว 17 แห่ง มีแท็กซี่ในความดูแลทั้งสิ้น 100,900 คัน มีพนักงานขับรถวันละ 2 รอบ จำนวน 201,800 คน มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานไม่ต่ำกว่า 350 คน บุคคลเหล่านี้ยินดีจะเป็นพลังสำคัญในการป้องกันไข้หวัด 2009 โดยทั้ง 17 สหกรณ์ มีผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่าวันละ 1 ล้านคน และกระทรวงสาธารณสุขจะสนับสนุนหน้ากากอนามัยให้กับพนักงานขับรถแท็กซี่ 4 แสนชิ้น ซึ่งบุคคลเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ป่วย แต่เป็นผู้มีความรับผิดชอบสูงสุด ที่ป้องกันสุขภาพตนเองและผู้โดยสาร เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการต้องพบกับผู้ใช้บริการวันละจำนวนมาก การป้องกันตนเองจึงเท่ากับการป้องกันบุคคลอื่น 

 

             นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการฯ  กล่าวว่า โครงการ แท็กซี่ไทยปลอดภัย รวมพลังสู้หวัด 2009” จะมีมาตรการ 5 ปลอด คือ 1.คนขับปลอดภัย มีการตรวจอุณหภูมิก่อนปฏิบัติงาน 2.รถปลอดภัย เช็ดทำความสะอาดรถด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค 3.ผู้โดยสารปลอดภัย เพราะคนขับสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และล้างมือบ่อยๆ อย่างถูกวิธี 4.จุดเสี่ยงปลอดภัย หมั่นทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม เช่น ที่เปิดประตู พวงมาลัย เบาะ 5.อากาศปลอดภัย หลังส่งผู้โดยสารจะเปิดกระจกรถ ให้อากาศถ่ายเทและแสงเข้า เพื่อฆ่าเชื้อโรค โดยคณะอนุกรรมการฯ จะสนับสนุนสื่อสื่อรณรงค์เพื่อติดที่รถแท็กซี่ และข้อมูลการป้องกันตนเอง เพื่อให้ผู้สาร อาทิ โปสเตอร์ สติกเกอร์ แผ่นพับ เป็นต้น

 

แท็กซี่ไทยปลอดภัย รวมพลังสู้หวัด 2009

             นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า อภ. จะสนับสนุนให้มีการจำหน่ายเจลล้างมือ หน้ากากอนามัย บนรถแท็กซี่ เพื่อความสะดวกและให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด ซึ่งแท็กซี่คืออีกหนึ่งระบบขนส่งมวลชน ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากในแต่ละวัน โดยจะจำหน่ายเจลล้างมือหลอดใหญ่ขนาด 50 กรัม ในราคา 25 บาท หน้ากากอนามัยชนิดกระดาษ 4 ชิ้น 10 บาท และหน้ากากอนามัยชนิดผ้าชิ้นละ 10 บาท

 

             ด้านนายชยาทิต คฤหโยธิน พนักงานขับแท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีโครงการแบบนี้ แต่ตนคิดว่ามันอาจจะช่วยลดการแพร่กระจายได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้โดยสารทั่วไป ก็มิได้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใส่หน้ากากแต่อย่างใด ซึ่งตนอยากเสนอแนะให้มีการแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อจะได้เป็นการปลูกฝังนิสัยการใส่หน้าไปพร้อมๆกันทั่วประเทศ

 

 

 

 

 

เขียนโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ team content www.thaihealth.or.th

 

 

update:01-09-52

อัพเดทเนื้อหา: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

 

Shares:
QR Code :
QR Code