แฉโจ๋ไทย ฮิตสลับคู่สวิงกิ้ง สุดเสี่ยงเอดส์

ตะลึง เด็ก ม.ต้น ล่าเซ็กซ์ทำแต้มกว่า 90 ราย

 

แฉโจ๋ไทย ฮิตสลับคู่สวิงกิ้ง สุดเสี่ยงเอดส์            แฉโจ๋ไทย สุดเสี่ยง ฮิตสลับคู่สวิงกิ้ง ปฏิบัติกามกิจ โดยไม่มีการป้องกัน เพราะเชื่อมั่นในความใสซื่อบริสุทธิ์ของกันและกัน ทำยอดวัยรุ่น-นิสิต-นักศึกษา เป็นเอดส์มากขึ้น ส่วนวัยใส ฮิตเกมล่าแต้ม สะสมเซ็กซ์ โดยไม่สนความรู้สึกคนรอบข้าง ขณะที่ นักศึกษา เบี่ยงเบนทางเพศอื้อ จนกลายเป็นแฟชั่น

 

            เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้จัดสัมมนาวิชาการเรื่อง  องค์ความรู้งานวิจัย: การสร้างหลักประกันความมั่นคงและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์โดย ผศ.ดร.ศิริรัตน์ แอดสกุล ภาควิชาสังคมวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเสนอผลวิจัยเรื่อง สถาบันครอบครัว: พัฒนาการ และการเปลี่ยนแปลงตอนหนึ่งว่า จากการศึกษาปัญหาเยาวชนร่วมกับนิสิตจุฬาฯ พบสถิติที่น่า ห่วงว่าขณะนี้นิสิตนักศึกษาอยู่หอร่วมกันฉันสามี ภรรยาอย่างไม่อายใครมากขึ้น เพราะให้เหตุผลว่า เพื่อน ๆ ก็ทำกัน กลายเป็นมิติที่เปิดเผย

 

            ผศ.ดร.ศิรัตน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าเรื่องเรียนกับเรื่องเซ็กซ์เป็นคนละเรื่อง ที่น่าห่วงบางคู่มีการสลับคู่ สวิงกิ้ง ไม่ คำนึงว่าคู่ใคร และเป็นการปฏิบัติกามกิจโดยไม่  มีการป้องกัน เพราะเชื่อมั่นในความใสซื่อบริ สุทธิ์ของกันและกัน แต่ไม่มีใครรู้ว่าแต่ละคนก็ผ่านการมีเซ็กซ์มาแล้ว จึงเป็นข้อมูลที่น่าห่วงที่กระทรวงสาธารณสุขระบุว่าวัยรุ่นนิสิตนักศึกษาเป็นเอดส์มากขึ้น และยังพบปัญหาเด็กล่าแต้ม จากการพูดคุยเด็กระดับมัธยมต้นคนหนึ่งล่าแต้มมาแล้วถึง 90 กว่ารายใน 6 ปี ทั้งที่เด็กไม่ได้ยากจน แต่ทำเพราะมองเป็นเกมอย่างหนึ่ง โดยไม่ได้หวังทรัพย์ ไม่สนใจความรู้สึกพ่อแม่ และกลุ่มเพื่อนก็ไม่ได้มองว่าน่าวิตก

 

            ผศ.ดร.ศิรัตน์ กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับคนขับแท็กซี่ซึ่งถือเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีอีกแห่งในการรับรู้ปัญหา ระบุว่าเด็กบางคนพาผู้ชายขึ้นรถแถวสถานเริงรมย์โดยให้ไปส่งโรงแรมทั้งที่ยังไม่รู้จักกันมาก่อนแม้แต่ชื่อก็ไม่ทราบ เด็กบางกลุ่มใช้รถแท็กซี่เป็นที่เปลี่ยนชุดโดยไม่อายใคร บางรายระบุว่าเบื่อคู่นอนและขอแลกกับเพื่อนมานอน 5 วัน เด็กผู้หญิงบางคนเห็นผู้ชายหน้าตาดีก็ประกาศว่าภายใน 3 วันสามารถได้ผู้ชายคนนี้มาเป็นแฟน นอกจากนี้เรื่องของคู่เกย์ เลสเบี้ยนก็มีมากขึ้น และเปิดเผยตัวกันมากขึ้นในสถาบันอุดมศึกษา โดยเฉพาะจุฬาฯ ทุกคณะจะเห็นผู้ชายเบี่ยงเบนทางเพศเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงเสรีภาพ แต่ก็น่าห่วงว่าจะกลายเป็นแฟชั่นหรือไม่ นิสิตบางรายถึงขนาดเก็บเงินเพื่อรอไปผ่าตัดแปลงเพศ

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

update 16-07-51

Shares:
QR Code :
QR Code