เอดส์ไทยยังน่าห่วง เผยผู้ป่วยเอดส์รายใหม่เพิ่มปีละ 2 หมื่น
ย้ำต้องป้องกันควบคู่ไปกับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
สปสช. ระบุเอดส์ไทยยังน่าห่วง สธ. เผยผู้ป่วยเอดส์รายใหม่เพิ่มปีละ 2 หมื่น เร่งดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ทั้งเรื่องการให้ยาต้านไวรัส รวมถึงสูตรดื้อยา ให้คำปรึกษา ตรวจเลือด เผยปี 2552 เพิ่ม 2 สิทธิประโยชน์ใหม่ ย้ำสิ่งสำคัญ คือ การป้องกันที่ต้องทำคู่ขนานกับการรักษา เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณ
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคเอดส์ในประเทศไทยขณะนี้ มีตัวเลขที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับผู้ป่วยรายใหม่ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีข้อมูลว่า ผู้ป่วยเอดส์รายใหม่มีอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 2 หมื่นราย ขณะที่ข้อมูลจนถึงเดือนตุลาคม 2551 กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อกว่า 4.4 แสนคน
สิ่งที่ สปสช. ดำเนินการ คือ เรื่องการให้หลักประกันสุขภาพสำหรับผู้ป่วยเอดส์และผู้ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 ครอบคลุมเรื่องการให้ยาต้านไวรัส การให้คำปรึกษา การตรวจเลือด รวมถึงการจัดโครงการตรวจการดื้อยาต้านไวรัส เพื่อการปรับเปลี่ยนสูตรยาต้านให้ทันกับสถานการณ์
นพ.วินัยกล่าวว่า ในปี 2552 นั้น สปสช.จัดชุดสิทธิประโยชน์เพิ่มอีก 2 เรื่อง คือ การป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก และการให้ยาป้องกันภายหลังสัมผัสสิ่งคัดหลั่ง เช่น ในกรณีอุบัติเหตุจากการทำงาน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และถูกล่วงละเมิดทางเพศ
โดยตั้งเป้าหมาย มีผู้รับยาต้านไวรัส 1.2 แสนราย ผู้รับยาต้านไวรัสสูตรดื้อยา 5,000 ราย การป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก 6,400 ราย การป้องกันภายหลังสัมผัสสิ่งคัดหลั่ง 5,000 ราย และให้คำปรึกษาและตรวจเลือดโดยสมัครใจ 255,000 ราย
นอกจากนั้นยังสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร พัฒนาคุณภาพระบบบริการ และการประกันคุณภาพการตรวจทางห้องปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2552 ได้รับการจัดสรรทั้งสิ้น 2,983 ล้านบาท
“สปสช.มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย ขณะเดียวกันสิ่งที่สำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไปด้วยก็คือ การป้องกัน เพราะหากการป้องกันเอดส์ไม่ได้ผล จะส่งผลกระทบต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งเรื่องความเจ็บป่วยที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากที่ต้องทุ่มเทกับการรักษา ดังนั้น การป้องกันเอดส์จึงเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ที่ผ่านมา สปสช. สนับสนุนงบประมาณ 500 ล้านบาท สำหรับคณะอนุกรรมการกำกับการขับเคลื่อนการปฏิบัติการป้องกันโรคเอดส์ดำเนินการป้องกันและแก้ไข รวมทั้งให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อเอชไอวีอย่างต่อเนื่อง” นพ.วินัยกล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
update 02-12-51