‘เสื้อพยุงหลัง’ ฝีมือชาวบ้านนวัตกรรมช่วยลดอาการปวด
อาการปวดเมื่อยตามร่างกายจากการทำงานหนักมักจะเป็นปัญหาคู่กับเกษตรกร หรือผู้ใช้แรงงานเกือบจะทุกคน เกษตรกรบ้านโนนสะอิ๊ ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ก็เช่นกัน ชาวบ้านที่นี่ประกอบอาชีพทำนา ชีวิตตลอด 365 วันจึงต้องก้มๆ เงยๆ ทำให้เป็นโรคปวดหลังเรื้อรังเป็นจำนวนมาก
อาการของโรคปวดหลังเรื้อรังนี้ ภาษาทางการแพทย์เรียกอาการนี้ว่า “Non-specific low back pain” หรือปวดหลังจากกล้ามเนื้อหลังและเส้นเอ็นเคล็ดยอก ซึ่งเป็นอาการที่ต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และที่สำคัญต้องมีอุปกรณ์ช่วยพยุงหลังเพื่อช่วยรักษาอาการ
จากการสำรวจปัญหาด้านสุขภาพ พบประชากรในพื้นที่ส่วนใหญ่ 70% มีอาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ทั่วร่างกาย ที่เกิดจากการประกอบอาชีพ ดังนั้น นักศึกษาภาควิชาเวชศาสตร์ทหารและชุมชน วิทยาลัยแพทยศาสตร์ พระมงกุฎเกล้า ได้จัดทำโครงการนวัตกรรมเสื้อพยุงหลังผ้าทอมือเพื่อชุมชนพอเพียงโดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการวิจัยและผลิตเสื้อพยุงหลังเพื่อลดอาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อต่างๆ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของเกษตรกร เพราะลำพังรายได้ของเกษตรกร คงไม่มีเงินเหลือพอที่จะหาซื้อมาใช้ได้
พ.อ.รศ.นพ.วิโรจน์ อารีย์กุล หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ทหารและชุมชน วิทยาลัยแพทยศาสตร์ พระมงกุฎเกล้ากล่าวว่า ภาควิชาเวชศาสตร์ทหารและชุมชน วิทยาลัยแพทยศาสตร์ พระมงกุฎเกล้า (วพม.) ได้ทำการเรียนการสอนนักเรียนแพทย์ทหารชั้นปีที่ 3 และ 4 ในวิชาเวชศาสตร์ชุมชน โดยได้ลงพื้นที่ฝึกภาคสนามที่ ต.ท่ากระดาน มานานกว่า 10 ปี เพื่อดูแลเรื่องปัญหาสุขภาพของชาวบ้านในพื้นที่ โดยให้คนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาสุขภาพมากขึ้น
พ.อ.รศ.นพ.วิโรจน์ บอกด้วยว่า ผ้าพยุงหลังใช้ผ้าทอมือซึ่งเป็นวัสดุที่มีอยู่แล้วในชุมชน มาตัดเย็บตามมาตรฐานและรูปแบบที่คิดและพัฒนามานานกว่า 1 ปี ซึ่งเสื้อพยุงหลังจะใช้ต้นทุนรวมแล้วไม่ถึง 500บาท โดยขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนให้ชาวบ้านทดลองใช้ โดยได้ผลตอบรับจากชาวบ้านเป็นอย่างดีว่า ช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อต่างๆ ได้มาก และหากผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจเราก็จะส่งเสริมให้โรงพยาบาลต่างๆ นำเสื้อพยุงหลังผ้าทอมือไปใช้ให้แพร่หลาย ตลอดจนการพัฒนาไปสู่สินค้าโอทอป และคาดว่าอีก 6 เดือนจะสามารถนำเสนอเป็นรายงานวิจัยทางการแพทย์และจดทะเบียนลิขสิทธิ์ต่อไป
“เราคาดหวังว่าเสื้อพยุงหลังผ้าทอมือที่ผลิตขึ้นนี้ สามารถ้นำไปใช้ได้จริง อีกทั้งเราได้ตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ผ้าพยุงหลังทอมือนี้ว่า “nonsaei” ด้วยสโลแกน ‘โนนสะอิ๊ ใส่ง่าย สบายดี เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” เพื่อให้ผู้ใช้จดจำได้ง่ายและดูมีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งชาวบ้านสามารถผลิตจำหน่ายเพิ่มมูลค่าผ้าทอมือช่วยสร้างรายได้ด้วยภูมิปัญญาของชาวบ้าน ” พ.อ.รศ.นพ.วิโรจน์ กล่าว
เย็น รากกระโทกอายุ 56 ปี ชาวชุมชนบ้านนายาว ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เป็นอีกคนหนึ่งที่ปวดหลังเรื้อรัง ซึ่งเมื่อก่อนเธอปวดหลังมากๆ ปวดมาถึงขา จนแทบจะเดินไม่ได้ พอไปหาหมอ ก็ได้ยาแก้ปวดมากิน แต่ก็ไม่หาย เมื่อกลับไปทำงาน อาการปวดก็กลับมาเหมือนเดิม แต่หลังจากที่ภาควิชาเวชศาสตร์ทหารและชุมชน วิทยาลัยแพทยศาสตร์ พระมงกุฎเกล้า ได้เข้ามาให้ทดลองใส่เสื้อพยุงหลังผ้าทอมือ ควบคู่กับกินยาที่หมอจัดให้ ก็รู้สึกว่าอาการดีขึ้น
ขณะที่ สมชาย พุตสูงเนิน อายุ 43 ปี ชาวชุมชนบ้านนายาวก็มีอาการปวดหลังเรื้อรังเช่นกัน เล่าว่า เขามีอาชีพทำไร่ ทำนา ปวดเอวมากเวลาทำงานหนัก ๆ แต่พอหยุดทำงานก็ไม่รู้สึกปวดเป็นอย่างนี้มานานมากไม่หายสักที แต่หลังจากที่ทดลองใส่เสื้อพยุงหลังผ้าทอมือแล้วอาการดีขึ้นมาก อาการปวดค่อยๆ หายไป ทุกวันนี้ก็จะใส่ไปเรื่อยๆ เพราะช่วยให้หายปวด ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมาก หายปวดหลังแล้ว ชีวิตก็มีความสุข จิตใจก็สดใสมากขึ้น ไม่ต้องกังวลหรือเครียดกับอาการปวดเอวอีกต่อไป
แน่นอนว่า หลังจากช่วงวิจัยผ่านพ้นไป นอกจากจะได้เสื้อพยุงหลังราคาถูกให้เกษตรกรได้ใช้ขณะประกอบอาชีพแล้ว ยังสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านจากการผลิตเพื่อจำหน่ายในอนาคตด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์