เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เสริมความสัมพันธ์ หนุนพัฒนาการ

องค์การอนามัยโลก และยูนิเซฟแนะนำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมตนเองอย่างเดียว 6 เดือนเต็ม และหลังจากนั้นเลี้ยงควบคู่อาหารที่เหมาะสมตามวัยจนลูกอายุครบ 2 ปี เพราะนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยพัฒนาเซลล์สมอง เส้นใยประสาท และจอประสาทตา


เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เสริมความสัมพันธ์ หนุนพัฒนาการ thaihealth


นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย ให้ข้อมูลว่า เด็กที่ได้กินนมแม่ มีพัฒนาการด้านการเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ ได้เร็ว มีไอคิว ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ 2-11 จุด ร่างกายแข็งแรง ว่องไว อารมณ์ดี ไม่ป่วยบ่อย นอกจากนี้ นมแม่ในระยะสัปดาห์แรก จะมียอดน้ำนมที่เรียกว่า "หัวน้ำนม" หรือ "โคลอสตรัม" ถือเป็นยอดอาหารที่อุดมไปด้วยสารคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ครบถ้วน และมีภูมิคุ้มกันสูงสุด เปรียบเสมือนได้รับวัคซีนหยดแรกของชีวิต เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ


วิธีการให้นมลูกที่ถูกต้องใช้หลัก 3 ด. คือ 1.ดูดเร็ว ต้องให้ลูกดูดภายใน 1 ชั่วโมง หลัง คลอดพร้อมโอบกอดแนบเนื้อ 2.ดูดบ่อย ทุก 2-3 ชั่วโมง ภายใน 2-3 วันแรก และ 3.ดูดถูกวิธี จัดท่าอุ้มและให้เด็กอมหัวนมให้ลึกถึงลานหัวนม และดูดให้เกลี้ยงเต้า ซึ่งพบว่าในขณะที่แม่อุ้มลูกดูดนมวันละ 8-10 ครั้ง พร้อมพูดคุยขณะให้นมนั้น ก่อให้เกิดสายใยรัก ผูกพันระหว่างแม่กับลูก อ้อมกอดแม่มีผลโดยตรงต่อการกระตุ้นระบบประสาทและสมองลูก ทำให้ใยสมองแตกแขนง กิ่งก้านมากขึ้น ลูกจะสัมผัสได้ถึงความรักของแม่ อบอุ่น ปลอดภัย ไม่เครียด และมีความสุข


สำหรับแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้านและไม่สามารถให้นมลูกจากเต้าได้ ควรบีบเก็บน้ำนม โดยควรบีบทิ้งก่อน 3 ครั้ง แล้วเก็บเท่าปริมาณที่ลูกดื่มไว้ในขวดที่ปิดมิดชิด สามารถอยู่นอกตู้เย็นได้ 6-8 ชั่วโมง หรือแช่แข็งเก็บได้นาน 3 เดือน


 


 


ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน


ขอบคุณภาพประกอบจาก http://ict.sci.psu.ac.th

Shares:
QR Code :
QR Code