เรื่องเล่า…เยาวชนรักถิ่น

เรื่องเล่าจาก “อ๋อ” เยาวชนจิตอาสา ต้นแบบวัยทีนรักถิ่นเกิด ที่ใช้เวลาว่างมาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพัฒนาชุมชนของตนเอง อ๋อเป็นเด็กคนหนึ่งที่เติบโตมากับการต่อสู้ของพี่น้องชาวบ่อนอก พ่อแม่และคนรอบข้างปลูกฝังให้เป็นคนเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว

เรื่องเล่า...เยาวชนรักถิ่น

พี่น้องในชุมชนทุกคนไม่เพียงแค่บอก แต่ทุกคนรอบข้างทำให้เห็นมาตลอดเวลา หลายครั้งที่อ๋อมีโอกาสไปเข้าค่ายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และเกิดความคิดว่าอยากจะมีเครือข่ายเยาวชนที่บ่อนอก เพื่อที่จะช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมและพัฒนาชุมชนเท่าที่เยาวชนสามารถทำได้ 

จนเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้มี “ค่ายเยาวชนรักถิ่น” ตลอดระยะเวลาในการทำค่าย 2 ครั้งที่ผ่านมา ทำให้เกิดเครือข่ายเยาวชนรักถิ่นเพิ่มมากขึ้นและใช้เวลาว่างมาพัฒนาชุมชน เช่น ช่วยกันดูแลต้นโกงกางที่ปลูกตอนทำค่าย, จัดรายการวิทยุชุมชนบ่อนอก ฯลฯ

“สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมค่ายครั้งแรก คือ สอนให้รู้จักเสียสละ น้ำใจ และยอมรับความคิดของทุกคนในกลุ่ม เพราะเราเพียงคนเดียวไม่สามารถทำให้งานออกมาดีได้ นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสไปสัมผัสวิถีชีวิตจริงชาวบ้านบ่อนอกและคลองชายธง ทำให้กลุ่มเยาวชนรู้ว่าแต่ก่อนบ่อนอกคลองชายธงเป็นอย่างไร มีประเพณีวัฒนธรรมการละเล่นที่ดีงาม แต่ปัจจุบันค่อยๆ เลือนหายไป ทำให้เราเสียดายสิ่งดีงามต่างๆ ที่เคยมีมา” น้องอ๋อ กล่าว

เรื่องเล่า...เยาวชนรักถิ่น

“อ๋อ” กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่ามันอาจจะยากที่เราจะทำให้สิ่งดีๆ เหล่านั้นกลับมา แต่เราสามารถเล่าสู่กันฟังให้กับเพื่อนเยาวชนที่ไม่ได้มาร่วมค่ายและน้องๆ ฟังได้ด้วย  นอกจากประเพณีวัฒนธรรมที่น่าสนใจแล้ว ยังมีประวัติศาสตร์ที่เราได้เรียนรู้มาขึ้นจากแต่ก่อนที่เราหลงลืมที่จะถามเรื่องราวเกี่ยวกับชุมชนของเรา และเมื่อเรามีโอกาสได้มาค่ายนี้ก็ทำให้เรารู้เพิ่มมากขึ้นอีกมากเลยทีเดียวค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปลูกป่าชายเลน 500 ต้น ให้พื้นที่ กิจกรรมวิทยุชุมชนบ่อนอก เป็นพื้นที่ให้เยาวชนได้มีโอกาสมีเรียนรู้การทำงานของชาวบ้านเพื่อชาวบ้าน การใช้ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กในค่ายในเรื่องการแสดงตอนกลางคืน 

เรื่องเล่า...เยาวชนรักถิ่น

เยาวชนรุ่นใหม่ถือเป็นความหวังของชุมชน เป็นต้นไม้หลายต้นที่ผู้ใหญ่เฝ้ามองอยู่ อยากให้เป็นคนดีของชุมชน มีคำพูดของผู้ใหญ่บางคนที่บอกว่า “เขาหวังให้เยาวชนขึ้นมาทำหน้าที่แทนเขา” อ๋อคิดว่าเราคงไม่สามารถเทียบรอยเท้าขอผู้ใหญ่ได้หรอก และไม่กล้าคิดไปทดแทนด้วย แต่เราจะเป็นเยาวชนที่เดินคู่ไปกับผู้ใหญ่และมีรอยเท้าเป็นของตัวเอง โดยที่รอยเท้าคู่นี้และอีกหลายๆ คู่ จะเดินไปในทางที่ดี โดยที่มีผู้ใหญ่ทุกคนเป็นแรงบันดาลใจ

“ตอนปลูกป่าชายเลน เราทุกคนสนุกกับการปลูกป่ามากเลยค่ะ ถึงแม้จะเลอะเทอะเสื้อผ้าและเนื้อตัวเปลื้อนโคลนไปบ้าง แต่ทุกคนก็ช่วยกันจนมันสำเร็จและผ่านมาได้ หลังจากปลูกกล้าไม้ที่ป่าชายเลยเสร็จ เราหันหลังกลับไปมองกล้าไม้ว่า จาก 500 ต้นมันจะรอดกี่ต้นนะ และกี่ต้นที่จะสามารถช่วยต้านแรงน้ำได้ เป็นบ้านพักที่อาศัยให้กับสัตว์น้อยใหญ่และสิ่งมีชีวิตต่างๆ รวมถึง มนุษย์ด้วย

เรื่องเล่า...เยาวชนรักถิ่น

“คงจะเหมือนกับเยาวชนในค่ายนี้ แน่นอนว่า หลังจากจบค่ายไปคงไม่ใช่ 100% ที่จะเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและบ้านเกิด แต่ยังไงก็คงเหลือรอดบ้าง เหมือนกับการปลูกป่า เมื่อรู้ว่าต้นไม้ตายเราก็ปลูกเพิ่ม หากมันตายอีกเราก็ปลูกเพิ่มอีก ในวันหนึ่งมันก็คงจะโตและพื้นที่เหล่านั้น ก็คงจะเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ ที่จะคอยดูแลเราและชุมชนที่เข้มแข็งของเรา และผลของมันที่ตกอยู่ใต้ต้น คงเกิดเป็นกล้าไม้ต้นต่อๆ ไป เพื่อเป็นไม้ผลัดต่อจากรุ่นสู่รุ่น…” อ๋อกล่าวปิดท้าย

ขอบคุณค่ายนี้ที่ทำให้อ๋อและเพื่อนทุกคนรู้จักกัน และทำให้เรารักบ้านเกิดเรามากขึ้นกว่าเดิมจากที่รักอยู่แล้ว…

 

ที่มา: เครือข่ายพุทธิกา

Shares:
QR Code :
QR Code