เรียนรู้ศิลปะป้องกันตัว เรียนรู้ภูมิปัญญา
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
แฟ้มภาพ
ศิลปะการป้องกันตัวไม่ว่าจะเป็น มวยไทย มวยจีนการฟันดาบ ฯลฯเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีมาแต่โบราณนอกจากป้องกันตัวแล้วยังเป็นเครื่องมือนำไปสู่การทำให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรงมีสุขภาวะที่ดีงามด้วย ปัจจุบันศิลปะดังกล่าวกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มของคนรักสุขภาพที่นำมาประยุกต์ใช้ในการออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง
สำหรับการฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวของไทยไม่ว่าจะเป็นมวย เป็นฟันดาบยังมีเรื่องของหลักธรรมศาสนาเข้ามาเป็นเครื่องมือหลอมจิตใจให้ดีงามมีคุณธรรมนำศาสตร์ดังกล่าวไปใช้ในทางสุจริตดีงามเกื้อกูลตัวเองและคนอื่นหรือที่คนโบราณบอกว่าต้องมีครูนั่นแหละ
ไม่นานมานี่เอง ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัด "พิธีครอบครูบูชาครูศิลปะการป้องกันตัว" เพื่อน้อมรำลึกถึงครูบาอาจารย์ศาสตร์ด้านศิลปะการป้องกันตัว โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผจก. สสส.เป็นประธานในพิธีเปิด
"คนไทยเป็นศิษย์มีครูทุกคน ซึ่งครูคนแรกคือพ่อแม่และยังรวมถึงศาสตร์ทุกแขนงหรือแม้แต่ครูพักลักจำนั่นก็นับว่าเป็นครู และไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องน้อมรำลึกถึงครูบาอาจารย์ เป็นการแสดงความเคารพและขอขมา เช่นลูกเคารพพ่อแม่ลูกศิษย์เคารพครูอาจารย์ มีความกตัญญูซื่อสัตย์ต่อผู้มีพระคุณ สิ่งเหล่านี้ก็จะก่อให้เกิดความเหนียวแน่นต่อสังคมมากขึ้น ฉะนั้นพิธีไหว้ครูจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรารำลึกถึงครูอาจารย์" อาจารย์วิชิตชี้เชิญ ครูภูมิปัญญาไทย สาขาศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของไทย ปี 2548 อธิบายถึงความสำคัญของพิธีไหว้ครู
ครูภูมิปัญญาไทย ยังบอกอีกว่า สสส.ได้มองเห็นความสำคัญของพิธีศักดิ์สิทธิ์นี้ เพราะเราล้วนแต่มีสิ่งที่งดงามมาจากภายในนั่นคือจิตใจและคุณงามความดีซึ่งคนไทยมีศิลปะการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์คือมวยไทยแต่การสอนของ สสส. คือการสอนให้เป็นมวย ไม่ใช่เป็นนักมวย หมายถึงการสอนให้คิดเป็น ฟังเป็น พูดเป็นรู้จักแก้ปัญหา และเรียนรู้วัฒนธรรมไทยอย่างถ่องแท้พร้อมที่จะอยู่ในสังคมโลกอย่างสง่างาม การนำมวยมาเป็นเครื่องมือออกกำลังกาย นอกจากจะได้สุขภาพกายสุขภาพใจที่แข็งแรงแล้ว ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีที่งดงาม
ด้าน นางสาวปริยากร รัตนสุบรรณ นายกสมาคมกีฬาไทยแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ บอกว่า การนำศิลปะการต่อสู้ของคนไทยมาเผยแพร่ในรูปแบบการออกกำลังกายเป็นโอกาสดีที่จะได้อนุรักษ์และสอดแทรกความรู้ศิลปะมวยไทยเข้าไปด้วย เพราะปัจจุบันกีฬาไทยได้รับความสนใจน้อยลง หากได้รับความสนใจและแรงส่งเสริมที่ดีก็จะเป็นแรงกระตุ้นให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญของกีฬาไทยมากขึ้น เพราะไม่เพียงแต่เป็นการฝึกฝนร่างกาย แต่ยังเป็นกีฬามวลชนที่สร้างจิตสำนึกด้านภูมิปัญญาได้เป็นอย่างดี
นอกจากการดูแลสุขภาพองค์รวม ทั้งด้านกาย ใจ ปัญญา และสังคม สสส. ยังได้เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญา ศิลปะแขนงต่างๆโดยนำมาสอดแทรกในกิจกรรมที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตในปัจจุบันมากขึ้น เช่น มวยไทย กระบี่กระบอง รำไทเก๊กมวยจีน เทควันโด เป็นต้น
ใครสนใจเข้าร่วมกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพเช่นนี้สามารถเข้าร่วมได้ทุกวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 17.30-19.00 น. ที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. รวมทั้งมีกิจกรรมอื่นๆ ด้านเสริมสร้างสุขภาวะอีก (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)โดยติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2343-1500 กด 2, 08-1731-8270 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา09.00-17.00 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์), Line ID:thaihealth_center,@SOOK,www.facebook.com/sookcenter