เราควรตรวจมะเร็งปากมดลูกบ่อยแค่ไหน
ที่มา : สำนักศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก หนังสือทำอย่างไรให้ห่างไกลมะเร็งปากมดลูก โดยมุลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.) https://goo.gl/s7kjck
มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคร้ายที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของผู้หญิง เพราะเป็นโรคที่พบเป็นอันดับต้นๆ ของโรคมะเร็งในสตรี แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่หลายคนก็ยังละเลยที่จะเรียนรู้และป้องกันโรคร้ายนี้
ผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว ควรรับการตรวจภายในทุกคนทุก 1-2 ปี และตรวจคัดกรองเพื่อหามะเร็งในระยะเริ่มแรก และระยะก่อนเป็นมะเร็งอย่างน้อยทุกๆ 3 ปี สําหรับผู้ที่ไม่สะดวกไปรับบริการก็ควรตรวจอย่างน้อยทุกๆ 5 ปี หากผลตรวจปกติ 2-3 ครั้ง ก็สามารถเว้นระยะห่างออกไปได้ สําหรับผู้หญิงที่มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ควรมาพบแพทย์ตรวจ แม้จะหมดประจําเดือนไปแล้วหรือไม่มีเพศสัมพันธ์มานานแล้วก็ตาม
แต่หากคุณมีปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้ ควรต้องไปตรวจมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ําเสมอ
• ผู้หญิงอายุมากกว่า 35 ปี โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว
• มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนอายุน้อยหรือหลังจากมีประจําเดือนไม่นาน
• เปลี่ยนคู่นอนหลายคน
• คนที่เคยมีการอักเสบที่บริเวณปากมดลูกหรือมีปากมดลูกฉีกขาดที่ไม่ได้รับการดูแลสุขภาพ
• คนที่เคยติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริมหรือกามโรค เป็นต้น
• คนที่ไม่เคยตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
• คนที่มีเชื้อ HIV หรือเอดส์
• คนที่สูบบุหรี่หรือเคี้ยวยาเส้นเป็นประจํา
• คนที่เคยไปตรวจแป็บเสมียร์แล้วพบว่ามีความผิดปกติเล็กน้อย ควรไปตรวจซ้ําทุกปีหรือ 2 ปี เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อเยื่อผิดปกตินั้นหยุดการเจริญเติบโตแล้ว