เยาวชนรวมพลังผลิตสื่อสร้างสรรค์รู้ให้ทันพนันบอล

ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก โดย ธนากร คมกฤส ผู้อำนวยการเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน


เยาวชนรวมพลังผลิตสื่อสร้างสรรค์รู้ให้ทันพนันบอล thaihealth


แฟ้มภาพ


มหกรรมฟุตบอลยูโร กำลังจะเริ่มขึ้น ท่ามกลางแฟนฟุตบอลทั่วโลกที่ตั้งตารอ ขณะเดียวกันยังมีสิ่งที่ตามติดมาเป็นเงาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบจำนวนไม่น้อยในศึกลูกหนังดังกล่าว นั่นคือการพนันฟุตบอล โดยเฉพาะนักเล่นพนันหน้าใหม่ในหมู่เยาวชนที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ  อย่างน่าวิตกยิ่ง


ทั้งนี้เพื่อการเชียร์สีขาวไม่เชียร์พ่วงพนัน สนุกไปกับเกมที่ชื่นชอบอย่างสร้างสรรค์ โครงการสนับสนุนการเสริมสร้างศักยภาพการสื่อสารสาธารณะเพื่อลดปัจจัยหลักทางสุขภาพ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ร่วมกับเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน และกองทุนสลาก กินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม  จัดกิจกรรมประกวดคลิปวิดีโอออนไลน์รณรงค์หยุดพนันฟุตบอลยูโรที่กำลังจะมาถึง  ในชื่อกิจกรรม "ยูโรยูโน  รู้ทันพนันบอล" โดยเน้นกลุ่มนักศึกษาในสถาบันต่างๆ


ธนากร คมกฤส ผู้อำนวยการเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวถึงโครงการประกวด ผลงานนักศึกษาครั้งนี้ว่า  "ธุรกิจสีเทาต่างๆ มักมุ่งแสวงประโยชน์จากเด็กและเยาวชนเสมอ การพนันก็เช่นเดียวกัน การจะสื่อสารให้เด็กและเยาวชนตื่นตัวต่อปัญหาที่อยู่ใกล้ตัวพวกเขาอย่างมาก  ไม่ใช่เรื่องง่าย ดีที่สุดคือให้เขาสื่อสารกันเอง เพราะวัยเดียวกันเขาน่าจะเข้าใจกันมากกว่า พูดกันได้ตรงจุดมากกว่าผู้ใหญ่ที่มักจะมีช่องว่างระหว่างกันเสมอ และมักจะมีแต่ท่าทีของการห้ามปราม เอาผลกระทบมาบอก ซึ่งเราพบว่าไม่ค่อยได้ผล ฉะนั้น ความยากของทีมนักศึกษาที่เข้าประกวดเพื่อรณรงค์หยุดพนันฟุตบอลยูโรครั้งนี้ คือ ต้องพลิกหามุมที่จะสื่ออย่างแยบคายให้เข้าถึงเพื่อนๆ เขาให้ได้


"ขณะที่ในส่วนของการรณรงค์วงกว้างก็จะมีสื่อและกิจกรรมต่างๆ มากมาย ในอนาคตคาดว่าจะต้องมีกิจกรรมที่ชวนน้องๆ นักเรียนมัธยมต่างๆ เข้าร่วมมากขึ้น โดยเฉพาะน้องๆ ที่ทำกิจกรรมด้านการเชียร์กีฬา เพราะปัจจุบันการพนันแฝงมากับกีฬาต่างๆ  มากขึ้น ไม่ใช่แค่ฟุตบอลอย่างเดียวแล้ว แบดมินตัน วอลเลย์บอล ซึ่งกำลังเป็นกีฬายอดนิยมของเด็กเยาวชนไทยมีพนันแฝงมาด้วยทั้งหมด การเชียร์เป็นการปลุกพลังในทางที่สร้างสรรค์  กองเชียร์จะเป็นพลังหยุดการพนันได้"


"น้องนัฐ" สาวน้อยวัย 19  หรือ ณัฐมน พลอยเทศ จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คณะแพร่ภาพและการกระจายเสียง บอกว่า เธอเป็นคนชอบดูฟุตบอลมาก  เลยสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการประกวดคลิปออนไลน์รณรงค์หยุดพนันฟุตบอล  ในช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโร ที่จะถึงนี้ โดยมองว่าเวลาเข้าไปดูตารางฟุตบอล รู้สึกว่าทำไมถึงเข้าถึงการพนันได้ง่ายมาก


น้องนัฐ บอกว่า เธอเป็นคนไม่เล่นการพนันทุกชนิดแต่ชื่นชอบฟุตบอล ในเกมการแข่งขัน โดยไม่เคยคิดที่จะเล่นพนันฟุตบอล "เวลาเราเข้าไปเช็กตารางฟุตบอล แมตช์แต่ละแมตช์ หรือทีมที่เราเชียร์ พอเราคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ มันก็ขึ้นแทงบอลออนไลน์โดยอัตโนมัติมาเลย แล้วเท่าที่ดู ก็เป็นเว็บไซต์อันดับหนึ่ง มีคนเข้ามาดูมาก โดยเฉพาะเด็กเยาวชน หรือแม้กระทั่งเฟซบุ๊ก ก็จะถูกแปะลิงค์พนันฟุตบอลไว้เต็มไปหมด มันสะดวกมากเหลือเกินที่จะคลิกเข้าไปเล่น เพราะไม่มีอะไรปกปิดเลย" น้องนัฐ เล่าสิ่งที่เธอเจอมากับตัว พร้อมกับตั้งคำถามว่า เว็บไซต์เหล่านี้ที่ถูกแปะเต็มไปหมด มันผิดกฎหมายไม่ใช่หรือ เพราะมันเป็นการพนันฟุตบอล นี่คือการพนัน แล้วทำไมถึงเปิดเผยกันขนาดนี้  และมันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ แต่เหมือนไม่ผิดกฎหมาย เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาในสังคม


ขณะเดียวกัน ในมุมมองแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าว เธอเสนอว่า "ถ้าหากจะให้ปิดเพจไปเลย ก็ส่งผลกระทบต่อคนที่ชอบฟุตบอล แต่ไม่แตะการพนันบอลอย่างเธอ ด้วยงบประมาณจำกัด การเข้าไปในออนไลน์  เพื่อดูโปรแกรมจึงเป็นเรื่องที่สะดวกและประหยัด หรือแม้กระทั่งจะให้อดตาหลับขับตานอนเชียร์ดึกๆ เธอก็ไม่สามารถจะทำได้


"ภาครัฐ อาจต้องเข้ามาดำเนินการจริงจัง แต่อาจไม่ต้องปิดเพจ เพราะต้องคิดเผื่อด้วยว่าคนที่เขาชอบโดยไม่เล่นการพนันฟุตบอลก็มีเยอะแยะ แต่ควรดำเนินการกับการแปะลิงค์ต่างๆ ที่ขึ้นมาอัตโนมัติซึ่งส่วนใหญ่เป็นลิงค์การพนันตรงนี้น่าจะเป็นทางออก"


ขณะที่ "น้องเจ" หรือ พงศ์ศิริ หอวัฒนพาณิชย์ อายุ 20  ปีจากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร  มาร่วมกิจกรรมนี้เพราะเพื่อนชวนมา โดยส่วนตัวนั้น น้องเจยอมรับ ว่าเคยเล่นพนันฟุตบอล เมื่อตอน ม.3  แต่ในปัจจุบันนี้  เขาไม่ได้เล่นพนันฟุตบอล และด้วยใจรักเขาเล่นฟุตบอลจริงจังในสนามเท่านั้น ไม่มีอบายมุขหรือการพนันเข้ามาเกี่ยวข้องนอกสนาม


น้องเจ ย้อนให้ฟังว่า ตอนที่เขาเล่นพนันฟุตบอลครั้งแรกนั้น เพราะ เพื่อนชวน "ผมเล่นตามเพื่อน เราชอบฟุตบอล ฟุตบอลมันเป็นสื่อกลางความสัมพันธ์ชั้นดี ยิ่งชอบทีมเดียวกันมันจะแน่นแฟ้นกันมากยิ่งขึ้น และมันก็หมายถึงการชักชวนกันเล่นพนันฟุตบอลก็ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน จำได้ว่าเล่นไป 50 บาท ยอมรับว่าอยากรู้และอยากลอง พนันฟุตบอลเหมือนเสพติด เพราะเวลาเสียก็อยากเล่นอีก หวังได้คืน แล้วพอยิ่งได้ก็ยิ่งต้องการเล่นมากขึ้นกว่าเดิม มันเป็นวงจรแบบนี้"


เยาวชนรวมพลังผลิตสื่อสร้างสรรค์รู้ให้ทันพนันบอล thaihealthน้องเจ บอกว่า การพนันฟุตบอล ขณะนี้เป็นกระแสของวัยรุ่นไปแล้ว ขยายวงไปเรื่อยๆ เป็นค่านิยมที่อันตราย ตนมองว่า บางทีมันก็เหมือนแชร์ลูกโซ่ ฟุตบอล เริ่มจากคนคนหนึ่งไปอีกคนส่งไม้ต่อกันไปเรื่อยๆ ซึ่งอันตราย อีกด้านของคนที่คลั่งไคล้ในฟุตบอลมาคุยกันแลกเปลี่ยนกันสนิทกัน แล้วจบลงที่ชวนกันเล่นการพนันฟุตบอล


"ถ้าจะแก้ปัญหาเยาวชนเล่นพนันฟุตบอล ก็อาจต้องจริงจังกับการบังคับใช้ระบบล็อกยูสเซอร์เนม ให้ใส่รหัสประชาชน  ซึ่งน่าจะป้องกันจำนวนผู้เล่นหน้าใหม่ในเด็กเยาวชนที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าตระหนกได้ ตอนนี้ผมมีไอเดียเกี่ยวกับเว็บออนไลน์ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญของปัญหานี้ คอนเซ็ปต์ก็คือ การเข้าถึงออนไลน์มันง่าย และเราก็จนง่ายเช่นเดียวกัน  แค่คลิกปุ่มเดียวก็จนได้" น้องเจ  เปิดเผยคอนเซ็ปต์สั้นๆ ทิ้งท้ายที่เขาอยากแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ ในกลุ่มในโปรเจกต์นี้


ขณะที่ "ปิง" เกรียงไกร วชิรธรรมพร ผู้เขียนบท ผู้กำกับซีรีส์ชื่อดังอย่างฮอร์โมนวัยว้าวุ่น มาร่วมเสนอมุมมองที่สำคัญ โดยระบุว่า ฮอร์โมน เป็นเรื่องของวัยรุ่นกับครอบครัว และพนันบอล  ก็เป็นพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่ปัญหาของวัยรุ่น ที่มีผลต่อครอบครัว  ผู้กำกับซีรีส์ชื่อดัง ขยายความต่อว่า พนันฟุตบอลในเด็กเยาวชน  ถือเป็นระดับที่น่ากลัว โดยเฉพาะจุดสำคัญ คือ ความง่าย ที่จะเข้าถึง  ด้วยความที่เด็กสมัยนี้ใช้อินเทอร์เน็ต และอยู่ในโลกออนไลน์


"ในฐานะคนทำสื่อ  ผมยังไม่ค่อยเห็นสื่อหยิบยกประเด็นเรื่องการพนันฟุตบอล มานำเสนอ หรือมาเล่นมากนัก  ทั้งๆ ที่มันเป็นประเด็นร้ายแรง และนำมาสู่อาชญากรรมอื่นตามมาต่อได้  ซึ่งก็อยากเห็นสื่อหยิบยกประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา ในส่วนตัว เราทำงานแบบอินไซด์  เข้าถึงจิตใจคน ซึ่งต้องเจาะลึก เชื่อมโยงเด็กที่อยู่ในปัญหาดังกล่าว ต้องไปศึกษา คลุกคลี เพื่อที่จะได้เรียนรู้ ได้รับรู้ว่าปัญหาแท้จริงแล้ว คืออะไร เพราะบางที  การมองแบบสายตาผู้ใหญ่ ก็เหมือนมองแบบคนนอกที่ไปตัดสิน ด้วยสายตากับเขา  ซึ่งมองแค่กว้างๆ ว่า การพนันเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่เราอยากศึกษา  เรียนรู้ไปถึงจุดที่เด็กเข้าไปสนใจ แล้วดึงจุดที่เด็กเห็นว่าดีตรงนั้นมาพูด  หรือนำเสนอว่า ดีแบบนั้นคือ ดีแบบลวงตา"


คุณปิง ทิ้งท้าย ถึงมาตรการป้องกันว่า ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย  แต่การบังคับใช้อ่อน ไม่เข้มแข็ง กลายเป็นแก้ปัญหาแบบยืดหยุ่น ไม่จริงจัง  ทั้งเพื่อรักษาผลประโยชน์ตัวเอง มากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม  ซึ่งผลเสียจะตามมาและเกิดขึ้นกับตัวเราด้วย


"เพราะท้ายที่สุด  การพนันมันเกิดผลเสียกับเด็กคนหนึ่ง ส่งผลไปสู่ปัญหาครอบครัวหนึ่ง  แล้วมันก็ย้อนมาเป็นปัญหาสังคม อาจเกิดอาชญากรรมขึ้น ทั้งหมดมันเป็นวงจรเดียวกัน ผมไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่แท้จริงแล้ว มันเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากๆ  ที่เราเห็นปัญหาแล้วต้องหันหน้ามาช่วยกันร่วมมือกัน"

Shares:
QR Code :
QR Code