เมื่อผู้หญิงเล่าถึง ‘ความรุนแรง’
ความรุนแรง พูดถึงคำนี้ ใครหลายคนคงคุ้นหูกันดี บางคนอาจจะเคยได้พบเห็นความรุนแรง หรือบางคนก็อยู่กับความรุนแรง ความรุนแรงมีหลายแบบ หลายระดับ ความรุนแรงเป็นเรื่องน่ากลัว และเราจะเลือกจัดการกับความรุนแรงอย่างไร
บางคนอาจจะตอบว่า ไม่ยากหรอก เราก็แค่จัดการไม่ไปยุ่งกับมัน หรือหลีกหนีจากความรุนแรงนั้นให้ห่างซะ ก็ไม่ผิดที่คิดแบบนี้ เป็นทางออกของปัญหาทางหนึ่ง แต่หลายคนหาทางออกไม่เจอ แต่กำลังจมอยู่กับปัญหาความรุนแรง หลายระดับ เช่น เด็กและผู้หญิงในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ในการอบรมครูปฐมวัย การอบรมเตรียมทำนวัตกรรมการอ่าน เป็นการระดมสมองคุณครูมาทำหนังสือนิทาน ที่เป็นชุดความรู้ของชุมชน หนังสือนิทานชุดนี้มาจากปัญหาที่ชุมชนสะท้อนมาว่า บ้านเรามีหนังสือนิทานมากมาย แต่ไม่มีนิทานเล่มไหนเลย ที่เป็นเรื่องราวสะท้อนสอนเด็กและผู้หญิงที่อยู่ในบริบทจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้มีกิจกรรมนี้ โดยการสนับสนุนของแผนงานส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อหาทางออกร่วมกัน
ในการอบรมครั้งนี้ มีผู้หญิงเข้าร่วมมากถึง 45 คน จาก 50 คน ประเด็นหัวข้อความสนใจที่ทุกคนอยากจะนำเสนอทำหนังสือนิทานในกิจกรรมนี้ มีเรื่องอัสลามูอาลัยกุม เรื่องมารู้จักร่างกายของเรากันเถอะ เรื่องวิธีอาบน้ำละหมาด เรื่องเมื่อหนูเกิดมาเป็นผู้หญิง เรื่องเมื่อหนูเกิดมาเป็นผู้ชาย และเรื่องเมื่อฉันพบความรุนแรง ซึ่งเรื่องหลังนี้เป็นประเด็นปัญหา เพราะมีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลายมาก เพราะหลายคนนึกไม่ออกว่า ทำไมต้องสอนให้เด็กรู้จักความรุนแรง
ครูคนหนึ่งพูดว่า มีเรื่องอื่นให้ทำอีกหลายเรื่อง ความรุนแรงเป็นเรื่องของคนอื่น ไม่ใช่เรื่องของเรา แต่มีเสียงสะท้อนจากคุณครูผู้หญิงหลายคน บอกว่า เมื่อไหร่ที่คุณพบกับความรุนแรง คุณจะเข้าใจว่า ความรุนแรงเป็นเรื่องใกล้ตัว และเป็นเรื่องของทุกคน ฉันนี่แหละพบกับความรุนแรงมาทุกรูปแบบแล้ว
ผู้หญิงหลายคนสะท้อนมาว่า เราควรให้ความสำคัญกับความรุนแรง เพราะอะไร ทำไมเราถึงไม่ควรมองข้ามการสอนเรื่องความรุนแรงให้กับเด็กของเรา มีคุณครูคนหนึ่งเล่าเรื่องตัวเองถูกเลี้ยงดูมาอย่างเด็กผู้หญิงอย่างเคร่งครัด มีโอกาสได้ร่ำเรียนหนังสือ เรียนกำลังจะจบปริญญาตรี ทางบ้านก็ให้แต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง เพียงเพราะผู้ชายคนหนึ่ง เป็นคนร่ำเรียนศาสนามา เขาจึงได้แต่งงานกัน ถึงแม้ไม่ได้ชอบพออะไร แต่นานไปก็รู้สึกรักและผูกพัน อยู่ด้วยกันจะเข้า 1 ปี เริ่มตั้งท้องอ่อนๆ เวลาไม่พอใจกัน ผู้ชายเริ่มลงไม้ลงมือ นานๆ เข้า เวลาทำผิดอะไรนิดหน่อยก็จะตบและตี จนบางวันคุณครูท่านนั้นไม่สามารถไปสอนหนังสือได้ เพราะหน้าบวม และอายเพื่อนคนอื่นๆ จะรู้ คุณครูบอกแม่ แม่ของครูพูดว่า เราเป็นเมียต้องทน เพราะเขาคือสามีของเรา ครูก็ทนจนคลอดลูก ลูกเริ่มโตและเห็นว่าพ่อทำร้ายแม่บ่อยๆ
จนในวันหนึ่ง ครูได้คุยกับลูก ลูกสี่ขวบ ลูกพูดว่า หนูรักแม่ หนูไม่อยากให้พ่อมาตีแม่เลย ลูกจะกลัวพ่อมาก เพราะลูกเห็นการกระทำของพ่อเขามาตลอด ครูจึงรู้สึกว่า เราจะปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเราอีกไม่ได้ เราจะให้ลูกของเราเติบโตกับภาพแบบนี้อีกต่อไปไม่ไหว เราต้องหยุดมัน ในวันหนึ่ง ที่สามีของครูเริ่มทำร้ายครูอีกครั้ง ครูคนนี้จึงลงมือสวนกลับ และหนีไปบ้านพ่อกับแม่ เมื่อแม่เห็นว่าลูกสาวโดนทำร้ายขนาดนั้น จึงสงสารลูกและพาไปหาโต๊ะอิหม่าม แต่โต๊ะอิหม่ามบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัว ควรจะพูดคุยตกลงกันเอง
เมื่อพึ่งโต๊ะอิหม่ามไม่ได้ ครูจึงไปที่สำนักงานคณะกรรมการจังหวัด เพื่อร้องเรียนฟ้องหย่ากับสามี แต่พอไปที่นั่น คณะกรรมการจังหวัดก็เป็นผู้ชายหมด และบอกให้เธอลองเล่าเหตุการณ์อีกครั้ง เป็นสิ่งที่เธอต้องรวบรวมความกล้าอย่างมาก ที่จะต้องเล่าว่า เธอถูกกระทำอย่างไรบ้าง อย่างละเอียดจากสามีของเธอ ต่อหน้าผู้ชายตรงหน้าที่เธอไม่รู้จัก และต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะสามารถฟ้องหย่าสามีได้ คุณครูบอกว่า เธอต้องคอยตอบคำถามคนชุมชนว่า ทำไมต้องฟ้องหย่า และบางคนก็ได้พูดว่า เรื่องแค่นี้ทำไมทนไม่ได้ กว่าจะผ่านกระบวนการฟ้องมาได้ เธอต้องมีความอดทนอย่างมาก
ในที่สุดเมื่อพยานหลักฐานชัดเจน เธอก็สามารถฟ้องหย่าผู้ชายคนนั้นได้ และได้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ครูบอกว่า เธอเพิ่งรู้จักความสุขในชีวิตก็ตอนที่สามารถใช้ชีวิตตามใจตัวเองได้ รู้สึกปลอดภัย และไม่ต้องคอยระวังตัวว่า สามีจะอารมณ์ไม่ดีตอนไหน ลูกก็มีความสุขมากขึ้น และไม่เคยร้องหาพ่อเลย
บรรยากาศในตอนคุณครูคนนั้นเล่า มีคุณครูคนอื่นๆ ร้องไห้ไปด้วยหลายคน และพยายามจะสื่อสารบอกเพื่อนว่า ฉันก็พบความรุนแรงในครอบครัวแบบนี้เหมือนๆ เธอ มันน่าตกใจตรงที่มีจำนวนคุณครูผู้หญิงหลายคนที่อยู่ในสภาพแบบนี้ แล้วเราจะสอนเรื่องความรุนแรงยังไง เราจะก้าวข้ามมันได้อย่างไร
ไว้โอกาสหน้า จะมาเล่าต่อ เมื่อผู้หญิงเล่าความรุนแรง เรื่องนี้จึงไม่จบง่ายๆ …
เรื่อง: วรรณกนก เปาะอิแตดาโอะ
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ