เพิ่มชีวิตให้ดีได้ เริ่มได้ที่ตัวเราเอง
เพิ่มชีวิตให้ดีได้ เริ่มได้ที่ตัวเราเอง
เชื่อหรือไม่ ในยุคที่เรามีข้าวของล้นเหลือ และได้ทุกอย่างมาอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อของหรืออาหารก็ทำได้เพียงด้วยปลายนิ้ว
เรากลับยังไม่มีความสุขจากการมีบางอย่างไม่เพียงพอ
สสส. จึงอยากชวนคุณมาหยุดคิดว่า สิ่งเหล่านั้นคืออะไร และคุณได้ทำสิ่งจำเป็นเหล่านั้นเพียงพอแล้วหรือยัง ถ้ายัง เราก็อยากจะชวนให้ลอง “เพิ่ม” เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นด้วยตัวคุณเอง
เพิ่มที่หนึ่ง : เพิ่มผัก
มื้อต่อไป ไม่ว่าจะกินอะไร ลองชวนผักเข้ามาร่วมจานเพิ่มขึ้น ให้ได้สักครึ่งหนึ่งของทุกมื้อ เพราะกากใยในผักจะเข้าไปจัดการสิ่งหมักหมมในลำไส้ ทำให้คุณสบายท้อง สบายตัว
ถ้าไม่ค่อยชอบกินผักเขียวเพราะกลัวขม เราขอให้คุณลองเริ่มจากผักที่เป็นมิตรอย่าง ฟักทอง แคร์รอต หรือเหล่าผักที่ไม่ใช่สีเขียวก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยๆเพิ่มสีเขียวเข้ามาในจาน โดยอาจจะเริ่มจากเขียวอ่อนๆ เพื่อเป็นกำลังใจ เช่น ผักตระกูลต้นหอม ผักกาดขาว ฟัก กะหล่ำปลี เป็นต้น
การทำจานอาหารให้น่ากินและมีโภชนาการครบถ้วน หลายคนอาจคิดว่าซับซ้อน ทำยาก แต่จริงๆแล้วไม่ยากเลย
สสส.ขอส่งต่อเคล็ดลับการกินแบบ 2-1-1 ที่จะช่วยให้แต่ละมื้ออาหารมีปริมาณผักเหมาะสม
เริ่มจากการกะด้วยสายตา แบ่งสัดส่วนของจาน (เส้นผ่านศูนย์กลาง 9 นิ้ว) ออกเป็น 4 ส่วนเท่าๆกัน และแบ่งประเภทอาหารที่จะใส่ลงในจานเป็นผัก 2 ส่วน 1 ส่วนถัดมาให้เป็นเนื้อสัตว์ และอีก 1 ส่วนเป็นข้าวหรือแป้ง
เท่านี้ก็อิ่มได้ อร่อยด้วย แล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องท้องผูก ไม่สบายตัว หรือขาดสารอาหาร และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น เสริมด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับรองพุงก็ลด โรคก็ห่างหาย
เพิ่มที่สอง : เพิ่มเวลาพักผ่อน
คนเราควรพักผ่อน ด้วยการนอนหลับให้สนิทอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และเวลาที่ควรเข้านอนก็คือตอน 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม จะทำให้ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่นมากที่สุด เพราะช่วงเวลาตั้งแต่ 5 ทุ่มถึง 7 โมงเช้าโดยประมาณ เป็นช่วงที่ระบบภูมิต้านทานโรคจะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และสะสมพลังงานสำรองไว้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอตลอดคืน
การพักผ่อนนอกจากช่วยให้ผิวพรรณสดใส ดูอ่อนเยาว์แบบไม่ต้องพึ่งครีมราคาแพงๆแล้ว ที่สำคัญการพักผ่อนให้เพียงพอยังช่วยรักษาโรคที่เกิดจากไวรัสอย่างหวัดเจ็บคออีกด้วย เพราะการกินยาปฏิชีวนะนอกจากไม่ช่วยรักษา กลับทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นเชื้อดื้อยา เสียทั้งค่าใช้จ่ายและเวลารักษามากขึ้น
เห็นไหมว่า การเพิ่มเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่มีอะไรเสีย แถมยังมีประโยชน์มากมาย
เพิ่มที่สาม : เพิ่มการออม
เราอยากชวนให้คุณเพิ่มการออมเงินให้ได้ขั้นต่ำ 10% ของเงินเดือนเสียตั้งแต่วันนี้ เงินจะได้กลายเป็น บวกบวกบวกเมื่อถึงวัยเกษียณ การออม 10% ของเงินเดือนนั้นไม่ยากเกินความพยายาม สมมุติว่าคุณได้เงินเดือน 10,000 บาท 10% ก็หมายถึงเงิน 1,000 บาท เท่ากับการงดชาไข่มุกวันจันทร์ ถึงวันศุกร์ตลอดเดือนเท่านั้นเอง มีเงินเพิ่ม แถมน้ำหนักลด ทำไมจะไม่ลอง
เงิน 1,000 บาทอาจดูไม่เยอะมาก แต่ถ้าหากคุณเข้าโครงการกองทุนการออมแห่งชาติที่มีรัฐบาลให้การสนับสนุน คุณจะได้ดอกเบี้ยจ่ายเป็นบำนาญเมื่อเกษียณ ดอกเบี้ยที่รัฐให้จะแตกต่างไปตามอายุ โดยเริ่มได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี ก็ได้ดอกเบี้ยสูงถึง 50% แล้ว
จะเรียกว่าเป็นโครงการ งดชานมไข่มุกแลกเงินบำนาญก็ได้
เพิ่มที่สี่ : เพิ่มเวลาเล่น
มีผลการวิจัยจากต่างประเทศยืนยันว่า หากเด็กอยู่นิ่งๆ เกิน 2 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งดูทีวี เรียนหนังสือ หรือนอนเล่นมือถือ เป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงให้เกิดโรคต่างๆ
องค์การอนามัยโลกจึงแนะนำว่า ในแต่ละวันเด็กควรมีกิจกรรมทางกาย เช่น ขี่จักรยาน ทำงานบ้าน ไปจนถึงวิ่งหรือขึ้นลงบันได อย่างน้อยที่สุด 60 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว การเล่นยังมีผลดีต่อสมองของเด็กอีกด้วย
การเล่นไม่จำเป็นต้องเล่น 60 นาทีรวดเดียวก็ได้ แต่สามารถแบ่งออกเป็นช่วงเวลา 10-20-30 นาทีก็ได้ กล่าวคือ เล่น 10 นาทีในตอนเช้า ต่อด้วย 20 นาทีระหว่างวัน และ 30 นาทีสุดท้ายในช่วงเย็น
กิจกรรมเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้ลูกได้ขยับเขยื้อนร่างกาย เพื่อพัฒนาการที่ดีทั้งร่างกาย และสมองแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว แถมพ่อแม่ และคนอื่นในครอบครัวที่มาเล่นด้วยกันก็พลอยมีสุขภาพดีตามไปด้วย
วิธีการปรับชีวิตให้ดีขึ้นเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งดี ๆ ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตั้งใจถ่ายทอด และส่งต่อให้กับคนไทยทุกคน หากใครสนใจอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถตามมาดูได้ที่ https://www.thaihealth.or.th/livehealthier แล้วรับรอง คุณจะรู้ว่า ‘ชีวิตดีเริ่มที่เรา’ ได้จริงๆ