เฝ้าระวังไข้หวัดนกหน้าหนาว
สธ.กำชับเฝ้าระวังไข้หวัดนกหน้าหนาว เตือนอย่ากินสัตว์ปีกป่วยตาย
ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วง รอยต่อฤดูฝนกับฤดูหนาว อากาศเย็นชื้น มีผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค รวมทั้งบางพื้นที่เริ่มมีนกอพยพหนีหนาวเข้ามาในประเทศ แม้ไทยไม่มีรายงาน ผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช 5 เอ็น 1 ตั้งแต่ พ.ศ.2549 และไม่มีรายงานการเกิดโรคในสัตว์ปีกตั้งแต่ พ.ศ.2551 เป็นต้นมา แต่ยังคงระดับการเฝ้าระวังป้องกันอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคดังกล่าว กำชับให้กรมควบคุมโรค ทำงานใกล้ชิด กับองค์การอนามัยโลก เพื่อติดตามสถานการณ์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมตรวจยืนยันเชื้อไข้หวัดนก โรงพยาบาลทุกแห่งพร้อมเรื่องรักษาพยาบาล
นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้กำชับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เข้มมาตรการเฝ้าระวังโรคที่ติดต่อจาก สัตว์ปีกสู่คน โดยบูรณาการทำงาน ร่วมกับกรมปศุสัตว์ ทั้งในคนและ สัตว์ปีกอย่างเข้มข้น เน้นหนักพื้นที่ ที่เคยพบผู้ป่วยหรือสัตว์ปีกติดเชื้อไข้หวัดนก ขอให้ประชาชนร่วมป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคไข้หวัดนก โดยสังเกต อาการของสัตว์ปีกทั้งเป็ด ไก่ นก ที่เลี้ยงไว้ รวมทั้งนกธรรมชาติ หากติดเชื้อและป่วย จากไข้หวัดนกจะมีอาการซึม ไม่กินอาหาร ขนยุ่ง ขนร่วง ไข่น้อยลง หงอนและเหนียงบวม มีสีคล้ำ ท้องเสีย ให้สงสัยอาจติดเชื้อไข้หวัดนก ห้ามนำสัตว์ปีกที่กำลังป่วยหรือตายแล้ว มาชำแหละจำหน่ายหรือรับประทาน หรือนำไปให้สัตว์อื่นกิน รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์หรือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หากจำเป็นต้องสัมผัสสัตว์ปีกขอให้สวมถุงมือหรือ ถุงพลาสติก และล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งหลังจากสัมผัสสัตว์ปีก หากมีอาการ เป็นไข้ ไอ ปวดเมื่อยตามร่างกายหรือหาก ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ มีประวัติสัมผัสสัตว์ปีกหรืออยู่ในพื้นที่สัตว์ปีกป่วยตาย หรือหลังเดินทางกลับจากพื้นที่มีรายงาน ผู้ป่วยให้รีบไปพบแพทย์ภายใน 48 ชั่วโมง พร้อมแจงประวัติการสัมผัสโรค ประวัติ การเดินทาง หรือโทร.ปรึกษาสายด่วนกรม ควบคุมโรค หมายเลข 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า