เผยรายชื่อ 354 คนพ่อดีเด่นแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมการจัดงานวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2553 โดยสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา ได้จัดงานมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณ แก่ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ประจำปี 2553 ครั้งที่ 31 ที่อาคารใหม่สวนอัมพร โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ มอบประกาศเกียรติคุณให้แก่พ่อที่ได้รับการคัดเลือก
โดยในปีนี้มีพ่อที่ได้รับการคัดเลือกจากทั่วประเทศจำนวน 354 คน ประกอบด้วยพ่อจากส่วนกลางซึ่งคณะกรรมการจัดงานเป็นผู้เสนอชื่อซึ่งมีทั้งหมด 163 คน พ่อตัวอย่างจากแต่ละเขตกรุงเทพมหานคร ที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เป็นผู้เสนอชื่อ 44 คน พ่อ ตัวอย่างจากส่วนภูมิภาค ที่ได้รับการเสนอชื่อจากผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด 147 คน
พล.อ.วันชัย เรืองตระกูล ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2553 เปิดเผยว่า การจัดงานทุกปีเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเทิดทูนพ่อที่มีคุณสมบัติดีเด่นโดยเป็นพ่อที่ดี มีความเลื่อมใสในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยและจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งเป็นผู้ที่เสียสละ บำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณชน รวมถึงเป็นผู้ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีไม่เคยต้องโทษทางอาญา รวมทั้งความเป็นอยู่ในครอบครัวอย่างปกติสุข ไม่มีความแตกแยกเกิดขึ้น พ่อตัวอย่างที่ได้คัดเลือกมาสามารถสืบสานและทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ พร้อมทั้งนำพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปปฏิบัติเป็นตัวอย่าง ให้แก่ครอบครัวของตนเองและครอบครัวอื่นได้กระทำตาม ถือเป็นผลสัมฤทธิ์ในการเป็นแบบอย่าง ที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศชาติ
ด้าน พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์องคมนตรี กล่าวแสดงความยินดีแก่พ่อตัวอย่างที่ได้รับรางวัลในปีนี้ว่า ท่านทั้งหลายที่ได้รับเกียรติบัตร ถือเป็นเครื่องหมายที่ได้รับยกย่องเป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ถือเป็นเกียรติที่น่าภาคภูมิใจเพราะเชื่อได้ว่าท่านเป็นผู้ประพฤติดี ประพฤติชอบอย่างประเสริฐ ทั้งในการครองชีวิตและการเป็นผู้นำครอบครัว โดยเฉพาะต้องทำหน้าที่ของพ่อ ที่พึงมีต่อลูกได้ดีเลิศเป็นที่ปรากฏลือเลื่อง ถือได้ว่าท่านเป็นคนที่มีคุณค่าของชาติเพราะคุณงามความดีที่สั่งสมเสมอมาไม่ขาดไม่เพียงแต่ส่งเสริมให้ท่านมีความปีติอิ่มเอิบทางใจ และความเจริญผาสุกในชีวิตเท่านั้นแต่ยังทำให้ได้รับการกล่าวขานยกย่องสรรเสริญ จากผู้คนในสังคมและเป็นแบบอย่างอันดีให้ผู้อื่น โดยเฉพาะลูกได้ถือปฏิบัติตามขอให้ท่านพยายามรักษาและสร้างเสริมคุณงามความดีอยู่ตลอด พร้อมทั้งทำหน้าที่พ่อด้วยความสำนึกเอาใจใส่ และรับผิดชอบให้สมกับที่ได้รับเกียรติ เป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ เพื่อรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมความเป็นพ่อให้ลูก และผู้เป็นพ่อตลอดจนบุคคลในสังคมได้ยึดถือเป็นตัวอย่างต่อไป
สำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับเลือกเป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ประจำปี2553 อาทิ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ10) กล่าวว่า มีลูกทั้งหมด 3 คน ในการอบรมเลี้ยงดูลูกย้ำเสมอว่า ให้เป็นคนที่ติดดินและบอกทุกครั้งว่า ทุกคนมีพ่อชื่ออัศวิน อย่าทำตัวเย่อหยิ่ง อยู่ในสังคมต้องให้เกียรติแก่สังคม อย่ายกตัวเองว่าสูงกว่าคนอื่น ต้องมีมนุษยธรรมในการดำเนินชีวิต ตนเป็นคนต่างจังหวัดปากกัดตีนถีบแต่ได้พยายามสอนลูกให้รู้จักคำว่าพอเพียงตามคำสอนในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสอนให้รู้จักการประหยัด รักชาติและรักประเทศ ทั้งนี้ไม่ได้คาดหวังให้ลูกเดินตามรอยเท้าตนเอง แต่ปล่อยให้ทุกคนมีอิสระทางความคิดเลือกตัดสินใจในการดำเนินชีวิตของตัวเองในอนาคต โดยดูแบบอย่างจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นหลัก และสอนให้ลูกรู้จักกตัญญูรู้คุณ ทดแทนแผ่นดิน ณ ปัจจุบันนี้ภูมิใจที่ลูกทุกคนที่เป็นเด็กดีไม่เกเรและไม่ติดยาเสพติด
อีกคนที่ได้รับรางวัลพ่อดีเด่น คือนายประทีป มหากิจศิริ ประธานกรรมการบริษัท กวงไถ่ มอเตอร์ เซลส์ จำกัด ระบุว่า รู้สึกภูมิใจกับรางวัลที่ได้รับ สิ่งที่จะต้องทำต่อไปต้องเป็นพ่อตัวอย่างให้สมกับที่ได้รับรางวัลนี้ โดยปกติในการเลี้ยงดูลูกทั้งหมด4 คน สอนให้ทุกคนช่วยเหลือสังคม ส่งเสริมให้ทุกคนมีการศึกษาที่ดีเพื่อนำประสบการณ์ที่ได้รับไปช่วยเหลือสังคมต่อไป และสิ่งสำคัญจะต้องมีความกตัญญูซึ่งในเรื่องของความกตัญญูตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็นมาตลอด ในวันนี้จึงรู้สึกดีใจที่ลูก ๆ ได้ปฏิบัติตามมีความกตัญญูและเชื่อฟังผู้ใหญ่ส่วนอุปสรรคในการเลี้ยงดูลูก ๆ มีบ้างในช่วงวัยรุ่น แต่วิธีการปรับตัวต้องไม่ใช้อารมณ์ในการพูดคุย พยายามทำตัวให้เป็นทั้งพ่อและเพื่อนให้ลูกแต่ละคนเข้ามาปรึกษาได้ส่วนคำสอนในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนำมาปรับใช้ในการเลี้ยงดูลูกในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ให้ลูกทุกคนรู้ว่าสิ่งใดจำเป็นหรือไม่จำเป็นต้องใช้
นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การได้เป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติถือว่าเป็นตัวอย่างสาธารณชนที่ต้องทำประโยชน์ต่อสังคมโดยดูแลครอบครัวของตัวเองให้ดีเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีต่อครอบครัวอื่น และเห็นอะไรผิดปกติต้องตรวจสอบ ซึ่งทุกวันนี้บ้านเมืองมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องให้โอกาสแก่สังคมไม่ใช่ให้โอกาสเฉพาะครอบครัวตัวเองเท่านั้น ไม่ควรไปกอบโกยของสาธารณะมาเป็นของตัวเอง การสอนลูก ๆ ไม่พยายามสอนให้ทุกคนมีอภิสิทธิ์ใด ๆ ควรให้เกียรติสังคมมากกว่าตัวเอง ไม่สอนให้เป็นนายคนเพราะอาชีพทุกอาชีพสำคัญเท่ากันหมดขอให้ทุกคนเป็นคนเก่งและคนดี ทุกวันนี้ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก ๆ ซึ่งลูกได้ซึมซับตลอดเวลาและบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่สังคมอย่างที่ตนเคยทำ
ด้าน นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ประธานกรรมการบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า การเลี้ยงลูกที่ผ่านมาฝึกให้ทุกคนมีคุณธรรม มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง ให้ทุกคนมีจิตใจที่ดีงาม ช่วยเหลือสังคม บำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณชน.
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
Update:07-12-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่